สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 10 ก.ย. โดยอ้างจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในรัฐบาลวอชิงตัน ว่า เที่ยวบินพิเศษของกาตาร์ แอร์เวย์ส พร้อมผู้โดยสาร 113 คน รวมถึงชาวอเมริกัน 10 คน ชาวต่างชาติซึ่งมีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐ 11 คน และ "ผู้ได้รับเชิญจากรัฐบาลวอชิงตัน" 39 คน ส่วนที่เหลือมีทั้งพลเมืองสหราชอาณาจักร แคนาดา เยอรมนี และยูเครน เดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติ ในกรุงโดฮา เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางมายังสนามบินภายใต้ความคุ้มกันของรัฐบาลกาตาร์ และ "การอำนวยความสะดวก และรับรองความปลอดภัย" จากกลุ่มตาลีบัน ขณะที่ ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี รมว.การต่างประเทศกาตาร์ "ขอบคุณ" รัฐบาลตาลีบัน ที่กลับมาเปิดสนามบิน นับตั้งแต่การยกพลเข้าสู่กรุงคาบูล เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา และการถอนทหารของสหรัฐซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา
ในอีกด้านหนึ่ง นางเดบราห์ ลีอองส์ ผู้แทนพิเศษด้านกิจการอัฟกานิสถานของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวว่า การที่รัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศซึ่งรับฝากทรัพย์สินของอัฟกานิสถาน รวมกันเป็นมูลค่าประมาณ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 327,060 ล้านบาท ) แต่มีการอายัดทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้ตกถึงมือกลุ่มตาลีบันนั้น จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในอัฟกานิสถาน "ตกต่ำมากขึ้นอีก" นานาชาติ "ต้องเปิดโอกาสหายใจ" ให้กับระบบเศรษฐกิจของอัฟกานิสถาน มิเช่นนั้น ผู้ที่รับเคราะห์มีแต่พลเมืองอัฟกันเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AP