นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ร่วมกล่าวปาฐกถาในงาน “ABLF Talks Live Virtual Conclave” รูปแบบออนไลน์ หัวข้อ “The Long Road to Economic Stability” (เส้นทางสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ) ร่วมกับผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกที่ให้ความสนใจเข้ารับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ ABLF Talk Live กว่า 30,000 คน เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับ Asian Business Leadership Forum (ABLF) เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2550 ร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่ง ABLF Talks Live Virtual Conclave เป็นส่วนหนึ่งของ ABLF Talks เริ่มออกอากาศเมื่อปี พ.ศ.2562 ทางช่อง CNBC Arabia (ช่องเคเบิลทีวีที่นำเสนอข้อมูลทางธุรกิจในภูมิภาคตะวันออกกลาง) และในปีนี้ ABLF Talks ได้พัฒนารูปแบบและช่องทางการนำเสนอให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โดยการสร้างสรรค์แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เปรียบเสมือนเวที ให้ผู้นำ ผู้บริหาร นักลงทุน นักวิชาการ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Startup) ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถทางด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ด้านโลจิสติกส์และคมนาคมขนส่ง สามารถขนส่งและกระจายสินค้าไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร้รอยต่อ และเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาค

ผ่านโครงการสำคัญ คือ โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย (Southern Land Bridge) ที่เชื่อมต่อการขนส่งทางน้ำระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวไทยผ่าน จ.ระนอง และ จ.ชุมพร และในอนาคตจะเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกฝั่งตะวันตกและตะวันออกไกลโดยเส้นทางดังกล่าวจะช่วยลดระยะเวลาการขนส่ง ส่งผลให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับการขนส่งสินค้าทางทะเล ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำที่สำคัญของภูมิภาค

รวมทั้งการขยายขีดความสามารถทางด้านบก ราง อากาศ ยังคงเป็นนโยบายหลักที่ได้ให้ความสำคัญ อาทิ การพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map) โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 และการยกระดับมาตรฐานการพัฒนาบุคลากรด้านการบินสู่ระดับสากล เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ และกระตุ้นระบบเศรษฐกิจไทย

นอกจากนี้ได้การนำเทคโนโลยีนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาทิ โครงการ M-Flow (การจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น) การติดตั้ง GPS บนรถโดยสารสาธารณะ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในงานระบบควบคุมจราจรทางอากาศ (TMCS) และทางน้ำ (VTS) รวมถึงการนำยางพารามาใช้ในการลดอุบัติเหตุทางถนน (Rubber Fender Barrier) เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวทั้งในประเทศและต่างประเทศ