เมื่อวันที่ 9 ก.ย. พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) สั่งการให้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ. พ.ต.ท.สุริยา นาคประนม สว.กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ. นำกำลังจับกุมนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 223/2564 ข้อหา บุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยจับกุมได้ที่ห้องพักในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นางเจนนี่ (นามสมมุติ) ได้พา ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ บุตรสาว เข้าแจ้งความที่ สภ.บางปะอิน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเอ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเด็ก พร้อมให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยอยู่กินกับนายเอ โดยชักชวนมาพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านพักใน อ.บางปะอิน ช่วงแรกๆ ผู้ต้องหาก็ทำตัวดีจนทุกคนไว้วางใจ มาระยะหลังลายเริ่มจะออก โดยสังเกตเห็นพฤติกรรมส่อไปทางลามกอนาจาร เช่น ชอบเปิดหนังโป๊ให้ดู ตนก็เตือนไปหลายครั้งแล้วว่าไม่ชอบ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด นอกจากนี้ก็มักจะถามบุตรสาวของตนอยู่บ่อยๆ ว่า ช่วยตัวเองเป็นไหม จะให้พ่อช่วยอะไรไหม เมื่อเห็นพฤติกรรมแบบนี้ก็เลยรีบตีตัวออกห่าง พร้อมขอเลิกและให้ออกจากบ้านไป
น.ส.เจนนี่ ให้การต่อว่า หลังจากออกจากบ้านไปได้ไม่นาน ก่อนจะเกิดเหตุ นายเอเข้ามาหาที่บ้าน อ้างว่ามาทำงานผ่านมาพอดี พร้อมซื้อของกินมาฝากด้วย แต่ตนไม่ให้เข้าบ้าน ปรากฏว่าตกเย็นวันเดียวกัน นายเอก็แอบเปิดประตูรั้วเข้ามาในบ้านอีก ขณะนั้นตนออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแถวๆ บ้าน มีเพียงบุตรสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง นายเอสบโอกาสก็เลยใช้กำลังบังคับลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ระหว่างนี้บุตรสาวก็พยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ สุดท้ายสบโอกาสก็รีบวิ่งหนีออกมาได้ ก่อนมีพลเมืองดีเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้นายเอต้องรีบวิ่งหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีโดยมาพักกับญาติที่ อ.เสนา จึงนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว สอบสวน นายเอ ให้การปฏิเสธ โดยยอมรับแค่ว่า ตนบุกรุกเข้าไปในบ้านของอดีตภรรยาจริง แต่ไม่ได้ใช้กำลังข่มขืนหรืออนาจาร ด.ญ.บี แต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ก่อนนำตัวส่ง สภ.บางปะอิน สอบสวนดำเนินคดีต่อไป.