เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 22.00 น. คืนวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณงานของดีเทศบาลเมืองนครนายก จึงประสานกำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ จึงกระจายกำลังเฝ้าระวังอยู่ภายในบริเวณงานโดยรอบ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จึงถอนกำลังกลับ แต่ต่อมาเวลา 00.00 น. วันที่ 17 ก.ค. นายจิรวุฒิ แสงมณี อายุ 26 ปี และนายรพีภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ขับรถกระบะ และรถเก๋ง ที่มีรอยถูกทุบและรอยกระสุนยิงเข้าที่กระจกหน้ารถมา เข้ามาเป็นหลักฐาน เดินทางเข้ามาแจ้งความ สภ.เมืองนครนายก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ว่าถูกถล่มยิงมีคนเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

โดยทั้งสองแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีนายโจ๊ก เพื่อนที่รู้จัก พาแฟนสาวไปเดินเที่ยวที่งานของดีเทศบาลเมืองนครนายก แล้วเจอกลุ่มของอดีตแฟนฝ่ายหญิงประมาณ 10 คน เข้ามาหาเรื่องหาว่าไปแย่งแฟนสาวมา ก่อนจะลงมือชกนายโจ๊ก จนต้องวิ่งหนีรอดมาได้ แต่กลัวว่าขณะเดินทางกลับจะเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุอีก จึงโทรศัพท์มาบอกพวกตนให้ช่วยมารับ จึงชวนเพื่อนๆ ขับรถ 2 คัน ที่ขับมาแจ้งความ ไปรับนายโจ๊กกับแฟนสาว ด้วยกันประมาณ 4-5 คน บริเวณงานของดีเทศบาลเมืองนครนายก

ซึ่งเมื่อมาถึงบริเวณงานแล้ว พวกตนได้จอดรถคุยกันอยู่ข้างถนน เพื่อสอบถามเรื่องราวกับทางนายโจ๊ก ว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น มีคนชื่อนายมอส ขี่ จยย. มาเรียกให้พวกตนไปเคลียร์กัน บริเวณโรงแรมจันทรารีสอร์ท ซึ่งนายมอส เป็นคนที่พวกตนรู้จัก แต่อยู่กลุ่มฝั่งคู่กรณี ซึ่งตนเห็นว่าไปเคลียร์กันให้จบๆ ไปก็ดี เพราะเป็นห่วงนายโจ๊ก ถ้าเคลียร์จะถูกฝั่งคู่กรณีทำร้ายอีก จึงได้ไปตามจุดที่นัด แถวทางเข้าโรงแรมจันทรารีสอร์ท แต่เมื่อไปถึงยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกัน ฝั่งคู่กรณีก็ได้วิ่งกรูกันออกมาทุบรถ และยิงปืนใส่หลายนัด ทำให้ นายโน่ อายุประมาณ 18-19 ปี นั่งอยู่ด้านท้ายกระบะ ถูกยิงถากที่หัวบาดเจ็บ และนายเฟรม อายุประมาณ 16-17 ปี นั่งอยู่ท้ายกระบะคันเดียวกัน ถูกยิงเข้าที่ขมับ จึงเร่งเครื่องหลบหนีไปส่งโรงพยาบาล แต่นายเฟรม เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเข้าแจ้งความดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุทางฝ่ายคู่กรณี ก็ได้เข้าแจ้งความอ้างว่าถูกทางฝั่งผู้ตายเข้าไปบุกรุกบริเวณบ้านจุดเกิดเหตุที่ยิงกันก่อน จึงป้องกันตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมดของทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ระหว่างกำลังเร่งสอบปากคำ และหาข้อมูลหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งหมด และสอบปากคำทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป