ศึกเทนนิส แกรนด์สแลม รายการ “วิมเบิลดัน” ที่ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการดวลแร็กเกตในประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ผลปรากฏว่า คาร์ลอส อัลการาซ นักหวดมือ 1 ของรายการจากสเปน อาศัยความสดสยบ โนวัค ยอโควิช อดีตแชมป์ 7 สมัย และมือ 2 จากเซอร์เบีย ลงได้แบบสุดมัน 3-2 เซต 1-6, 7-6 (8-6), 6-1, 3-6, 6-4 ผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยแรก และนับเป็นการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้เป็นรายการที่ 2 ในอาชีพถัดจากแชมป์ ยูเอส โอเพ่น ปี 2022

จากการคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้ อัลการาซ จะยังสามารถรักษาบัลลังก์นักเทนนิสชายหมายเลข 1 ของโลกเอาไว้ได้ต่อไปในการจัดอันดับวันจันทร์นี้ และทำให้ นักหวดหนุ่มจากแดนกระทิงดุ กลายเป็นนักเทนนิสชายอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ที่คว้าแชมป์วิมเบิลดันมาครองได้สำเร็จในยุคโอเพ่นถัดจาก บอริส เบ็คเกอร์ ที่คว้าแชมป์มาครองด้วยวัยเพียง 17 ปี 227 วัน เมื่อปี 1985 และ บิยอร์น บอร์ก ที่คว้าแชมป์ด้วยวัยเพียง 20 ปี กับอีก 1 เดือนในปี 1976

ส่วน ยอโควิช ชวดทำสถิติคว้าแชมป์วิมเบิลดันเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 8 เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้ยังชวดทำสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเป็นรายการที่ 24 เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ มาร์กาเร็ต คอร์ต ตำนานนักหวดหญิงชาวออสซี อีกด้วย.

ภาพ AFP