ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะ ผอ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การใช้เครื่องจักรกลสาธารณภัย (อัคคีภัย) ระหว่าง เทศบาลเมืองหัวหิน กับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กับ นายอุดม เพชรคุต ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 4 ประจวบฯ ลงนามในการใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันและระงับอัคคีภัยในเขตเทศบาลเมืองหัวหินและพื้นที่ข้างเคียง พร้อมส่งมอบรถดับเพลิงชนิดหอน้ำขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 90 เมตร มูลค่า 167 ล้านบาท 1 คัน ให้กับเทศบาลเมืองหัวหินไว้ใช้ในการระงับอัคคีภัย พร้อมกันนี้ ผวจ.ประจวบฯ ได้มอบประกาศเกียรติคุณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการจัดการสาธารณภัยดีเด่น ประจำปี 2564 ให้กับ “เทศบาลเมืองหัวหิน” ที่ได้รับการคัดเลือกจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จากนั้นได้มีการสาธิตการใช้รถดับเพลิงชนิดหอน้ำที่บริเวณสวนสาธารณะ 19 ไร่ อีกด้วย

นายนพพร กล่าวว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เกิดจากแนวคิดความเสี่ยงสาธารณภัยในการกระจายเครื่องจักรสาธารณภัยที่เหมาะสมไปยังพื้นที่เสี่ยงสาธารณภัยหรือที่พื้นที่ที่มีความล่อแหลมต่ออันตรายจากภัยพิบัติที่อาจส่งผลความสูญเสียจำนวนมหาศาล โดยพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ออัคคีภัยในเขตชุมชนที่มีอาคารสูง ซึ่งรถดับเพลิงขนาดเล็กมีขีดความสามารถไม่เพียงพอ การลงนามฯบันทึกข้อตกลงมีผลผูกพันตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.64 – 30 ก.ย. 65 โดยมีเป้าหมายเน้นการมุ่งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่มีศักยภาพและเจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการปฏิบัติงานและมีขีดความสามารถในการเก็บรักษาทรัพย์สินของทางราชการ รวมถึงเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเผชิญสาธารณภัยรูปแบบต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลสาธารณภัยที่มีสมรรถนะสูงเข้าจัดการสถานการณ์เร่งด่วนในพื้นที่ ส่งผลให้การบรรเทาภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ทันท่วงทีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองหัวหินได้จัดส่งเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 5 นาย เดินทางไปฝึกอบรมการใช้งานและบำรุงรักษารถดับเพลิงชนิดหอน้ำขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 90 เมตร ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 มีกำหนดจัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจซ่อมบำรุงรักษาเบื้องต้นตามวงรอบการดูแลเครื่องจักรกลหรือเมื่อได้รับแจ้งความผิดปกติของเครื่องจักรกลสาธารณภัยดังกล่าว

นายอุดม กล่าวว่า อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีนโนบายบูรณาการเครื่องจักรกลสาธารณภัยระหว่างกรมฯ กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพและมีหน้าที่ในเรื่องของการบรรเทาสาธารณภัยในเรื่องการทำ MOU ร่วมกันกับทางเทศบาลเมืองหัวหิน เป็นการบูรณาการรถดับเพลิงอาคารสูงไม่ต่ำกว่า 90 เมตร เพื่อการเผชิญเหตุในการดับเพลิงอาคารสูง ซึ่งเมื่อประเมินพื้นที่แล้วเทศบาลเมืองหัวหินมีอาคารสูงเกินกว่า 20 ชั้น 22 แห่ง นอกจากนั้นยังมีอาคารที่เป็นแหล่งที่พักอาศัยที่เป็นอาคารสูงทั้งในเขตเทศบาลเมืองหัวหินและชะอำ เหตุที่จำเป็นต้องนำมาเพราะว่าการจอดไว้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.สามร้อยยอด ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นที่หัวหินกว่าจะเคลื่อนที่มาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นการที่มาจอดที่นี่ เป็นการทำ MOU ร่วมกันเพื่อการนำเครื่องจักรมารองรับกรณีเกิดภัยขึ้นในพื้นที่เพื่อให้การเผชิญเหตุที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อเกิดเหตุก็สามารถเผชิญเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพและออกไปปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที