กรณี น.ส.นิรมล หรือมิ้นท์ พรหมคุณ อายุ 30 ปี เดินเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ว่า นายยุทธนา หรือแจ๊บ มาดี อายุ 29 ปี สามีของ น.ส.นิรมล ก่อเหตุฆาตกรรม ด.ญ.อริศสา หรือ ปีใหม่ ถิราวัฒน์ อายุ 12 ขวบ ลูกบุญธรรม ที่รับอุปการะมาจากญาติห่างๆ เสียชีวิต ก่อนจับยัดถังพลาสติกโบกปูนทับ หลังจากนั้นทั้งคู่ได้เดินทางเพื่อไปสารภาพกับญาติเด็ก แต่นายยุทธนา ออกอุบายว่าไปหาเพื่อน ก่อนหลบหนีไปและถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันที่ (2 ก.ค.) ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
หรีด ‘มิ้นท์’ โผล่งานศพ แม่ ‘น้องปีใหม่’ เลี่ยงแจงปมแชตลูกขอเงิน
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่ สน.บางเขน น.ส.นิรมล หรือมิ้นท์ พรหมคุณ อายุ 30 ปี ภรรยาของ นายยุทธนา หรือ “แจ๊บ” มาดี อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาใช้ไม้เบสบอลฟาด ด.ญ.อริศสา หรือใหม่ ถิราวัฒน์ อายุ 12 ขวบ เสียชีวิต ก่อนนำศพยัดถังน้ำแข็ง 200 ลิตร โบกปูน-ถมดินอำพราง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กำธร นิยม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหา ที่เป็นผู้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ, ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปเพื่ออำพรางคดี หลังจากที่ชุดคลี่คลายคดีพบพฤติการณ์เชื่อมโยงกับ นายยุทธนา สามี ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ในส่วนของการปิดบังเหตุการณ์การตายและอำพรางร่างผู้ตายเอาไว้ในบ้านนานหลายชั่วโมง ก่อนที่จะตัดสินใจปรึกษาญาติให้พาเข้าแจ้งความ
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา น.ส.นิรมล ได้เดินทางไปร่วมงานศพ ด.ญ.อริศสา ผู้ตายที่ จ.อุทัยธานี เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว จึงเดินทางมาพบตำรวจที่โรงพัก โดยแอบมาทางลานจอดรถด้านหลัง และไม่ยินยอมให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ หรือให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนใช้เวลา 4 ชั่วโมงสอบปากคำประกอบสำนวนเอาไว้ ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ และอนุญาตให้กลับบ้านพัก เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จากนั้นจะรอนัดหมายส่งตัวไปฝากขังที่ศาลในช่วงสายวันที่ 7 ก.ค. นี้ ซึ่งหากภายหลังมีการพบหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนของการร่วมทำร้ายร่างกายเหยื่อด้วย ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ต่อไป.
