เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ประชุมกับ อนุรักษ์ ศรีเกิด รักษาการหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยและทีมสตาฟฟ์โค้ช เพื่อแจงแผนงานการเตรียมทีม ซึ่งได้มีการสรุปปัญหา จากผลงานในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่ทีมไทยเตะ 3 นัดท้าย เสมอ 1 แพ้ 2 ตกรอบ

โดยได้สรุปสาเหตุปัญหาคือ

1.พบติดเชื้อโควิดในแคมป์ ต้องหยุดซ้อม 14 วัน

2.เมื่อซ้อมในไทยไม่ได้ ไม่รู้สภาพร่างกาย จึงไม่สามารถตัดตัว ต้องนำนักฟุตบอลไปยูเออีทั้งหมด 41 คน

3.เมื่อไปถึงยูเออี พบว่าแกนหลักหลายคนมีปัญหาบาดเจ็บ อาจจะฟื้นฟูจนถึงช่วงแข่งขัน และปัญหาความฟิต

4.แม้การนำนักเตะไปเยอะ จะทำให้มีตัวทดแทน แต่ข้อเสียคือไม่สามารถจำกัดกลุ่มนักฟุตบอลตัวหลักของทีมที่ชัดเจน สำหรับฝึกซ้อมลงรายละเอียดทางแทคติก และไม่สามารถสร้างความเข้าใจในแผนการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ ต่างจากทีมอื่นๆ ที่สามารถโฟกัสนักกีฬาที่คัดเลือกมาในจำนวนจำกัด

5.ปัญหาการสื่อสาร ของโค้ช ล่าม และนักฟุตบอล โดยหลังจากล่ามคนเดิมลาออก สมาคมฯ เสนอล่ามคนไทย ที่เคยทำงานกับนักฟุตบอลไทยที่ไปเจลีก 2 คน แต่ นิชิโนะ เลือก ธีรเนตร ยูกิ ทานากะ ที่ผู้ประสานงาน (อัตซิโอะ โอกุระ) กับ นิชิโนะ หามาเอง ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ที่ นิชิโนะ รู้จักคุ้นเคย จากการที่เคยเป็นผู้หาที่พักให้กับโค้ชในไทย และสามารถพูดได้ 2 ภาษา

แม้สมาคมฯ ทัดทาน ว่าคนที่มาทำหน้าที่ นอกจากรู้ภาษาไทย ญี่ปุ่น ถ่องแท้ ก็ต้องมีประสบการณ์ สื่อสารศัพท์เทคนิคให้นักบอลเข้าใจ แต่ฝ่าย นิชิโนะ ยืนยันเลือก ยูกิ สมาคมฯ จึงต้องยอม เมื่อทำหน้าที่ไปแล้ว เกิดปัญหา ยูกิ ไม่สามารถสื่อสารได้ดีเพียงพอ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ด้านฟุตบอลมาก่อน เป็นสาเหตุใหญ่สาเหตุหนึ่ง ล่าสุดทางสมาคมฯ ได้ทำการยกเลิกสัญญาการบริการของผู้ประสานงาน และล่ามแล้ว

6.นิชิโนะ เปลี่ยนโปรแกรมเดินทางกลับญี่ปุ่น และไม่แบ่งงานหลังจบศึกคัดบอลโลกที่ ยูเออี สมาคมฯ มาทราบในการประชุมวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ วันที่ 22 มิ.ย. จึงตั้ง โค้ชจุ่น, โค้ชหระ รักษาการ ดูฟอร์มนักเตะในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก และหลังจากประสานงานต่อเนื่อง เพิ่งทราบว่า นิชิโนะ จะกลับไทย วันที่ 20 ก.ค.64