เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ (ผอญ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทอท. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีอุบัติเหตุทางเลื่อนท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) แล้ว มีเรืออากาศเอก ธรรมาวุธ นนทรีย์ รองกรรมการ ผู้อํานวยการใหญ่ (สายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน) ทอท. เป็นประธาน โดยคณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม, สภาวิศวกร, วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.), บริษัท บริษัท สยามฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ จำกัด และญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
“นอกจากคณะกรรมการฯ จะต้องไปตรวจสอบดูว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุใด และเกิดความบกพร่องของอุปกรณ์หรือไม่ จะต้องตรวจสอบลิฟต์ บันไดเลื่อน ทางลาด และเครื่องปรับอากาศ ของ 6 ท่าอากาศยานภายใต้การดูแลของ ทอท. ด้วย เบื้องต้นหากพบว่า ทางเลื่อนใดมีอายุการใช้งาน 25 ปีขึ้นไป จะต้องเปลี่ยนใหม่ทันที ซึ่งในส่วนของ ทดม. นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ทางเลื่อนมีอายุการใช้งานเกิน 25 ปี ซึ่งจะมีการเปลี่ยนทางเลื่อนใหม่ทั้งหมด 20 ตัวทันที เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้กับผู้โดยสาร” นายกีรติ กล่าว
ผอญ.ทอท. กล่าวต่อว่า ทางเลื่อนที่เกิดอุบัติเหตุนั้น เพิ่งมีการซ่อมบำรุงใหญ่ และเปลี่ยนอุปกรณ์เมื่อปี 58 ซึ่งที่ผ่านมายืนยันว่าได้มีการดูแลรักษา และตรวจเช็กอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายวัน รายเดือน ราย 3 เดือน และรายปี ทั้งนี้คงต้องรอดูผลสอบข้อเท็จจริงก่อน หากพบว่า เกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ ทางบริษัท ฮิตาชิฯ ในฐานะผู้รับติดตั้งระบบ และการดูแลบำรุงรักษา ก็ต้องรับผิดชอบด้วย โดย ทอท. จะดำเนินการทางกฎหมาย และแจ้งไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการกับบริษัทนี้ต่อไป เพราะตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐนั้น ทอท. ไม่สามารถขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ได้ เนื่องจากการจะติดแบล็กลิสต์ได้นั้น ต้องเป็นบริษัทที่ทิ้งงาน
นายกีรติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางเลื่อนที่ ทดม. ทั้ง 20 ตัว ยังคงปิดให้บริการอีกประมาณ 1 เดือน โดยในระหว่างนี้จะมีรถกอล์ฟคอยบริการรับส่งผู้โดยสารที่ไม่สะดวกในการเดินระยะไกล อาทิ ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ทอท. ได้พูดคุยกับทางญาติผู้เสียหายแล้ว ยังอยู่ในกระบวนการการเจรจา และยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขค่าเยียวยาได้ เบื้องต้น ทอท. จะดูแลรับผิดชอบทั้งค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และค่าเยียวยาความสูญเสีย
