เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี อาชีพขายของออนไลน์ น.ส.บี (นามสมมุติ ) อายุ 32 ปี อาชีพรับราชการ น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อาชีพรับจ้าง นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยเหลือ หลังถูก นายเต้ อายุ 39 ปี เข้ามาตีสนิทหลอกคบหาเป็นแฟน ก่อนหลอกให้เช่าซื้อรถเก๋ง รถกระบะ รถ จยย.ป้ายแดง คนละ 5-6 คัน โดยอ้างว่า ทำธุรกิจปล่อยเช่ารถ ก่อนจะเชิดรถหลบหนีไป ทำให้ผู้เสียหายถูกไฟแนนซ์รถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย คนละ 5-6 ล้านบาท มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวเกือบ 20 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายบางรายพอครอบครัวทราบเรื่องที่ลูกสาวถูกหลอก ถึงขั้นแม่ต้องผูกคอตายเพราะตรอมใจ ไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาช่วยใช้หนี้ให้ลูกสาว ส่วนลูกสาวกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนคิดสั้นจะฆ่าตัวตายตาม หลังเกิดเรื่องมีการแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบางท้องที่ไม่รับแจ้ง อ้างว่าเป็นเรื่องสามีภรรยาและเป็นความสมัครใจของผู้เสียหายเองที่ให้ด้วยความเสน่หา จึงได้รวมตัวกันเดินทางมาขอให้ทนายรณณรงค์ ช่วยเหลือในเรื่องของคดีความ ไม่อยากให้ชายดังกล่าว ไปหลอกหญิงสาวคนอื่นอีก

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวเกือบ 20 ราย ถูกหลอกให้ออกรถให้เขานำไปใช้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้รถทั้งหมดอยู่ที่ไหน แต่มีมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะให้ผู้เสียหายทั้งหมดรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด นำไปยื่นเรื่องที่กองบังคับการปราบปราม ให้ช่วยเข้ามาทำคดีให้ นอกจากนี้ยังพบว่า คนก่อเหตุเวลาไปหลอกลวงเหยื่อ ก็จะมักอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส. นอกเครื่องแบบ และยังมีหมายจับติดตัวอยู่อีกหลายคดี เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ตนไม่เคยเจอใครที่หลอกลวงผู้เสียหายให้ไปออกรถให้คนหนึ่งครั้งละหลายๆ คัน แบบนี้มาก่อน ถือว่าเป็นภัยสังคมอย่างมาก ตอนนี้ผู้เสียหายหลายรายเครียดคิดสั้นจนจะฆ่าตัวตาย บางรายแม่รับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวไม่ได้ เพราะไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ช่วยลูกได้ ฆ่าตัวตายไปแล้วก็มี