เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีท่าทีของ 2 พรรคแกนนำตั้งรัฐบาล คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่มีกระแสข่าวประนีประนอมในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าเรื่องดังกล่าวตนได้ตามอ่านข่าวจากหลายสำนัก เชื่อได้ว่าเป็นข่าวปล่อยและเฟคนิวส์ เพราะตอนท้ายข่าวระบุว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธไม่ทราบเรื่อง อีกทั้งจากรายละเอียดที่ระบุว่า พรรคก้าวไกลได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 2 ตำแหน่ง รวมถึงหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ไม่ได้รับเสียงโหวตในรัฐสภาที่มากพอเป็นนายกรัฐมนตรี จะถอยให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ล้วนเป็นเงื่อนไขเก่าแทบทั้งสิ้น

“ผมมองว่าเรื่องนี้พยายามสร้างความสับสนและกลับไปกลับมา รวมถึงดิสเครดิตพรรคเพื่อไทย เพราะหากเป็นข้อมูลที่เป็นจริง ทำไม 2 พรรคใหญ่ไม่บอกว่าประชุมทางการ หรือมีการแถลงอย่างเป็นทางการ ดังนั้นในขณะนี้ผมเชื่อว่าไม่ใช่ข่าวจริง” นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่าประเด็นเหล่านี้จะยุติอย่างไร เพราะวันที่ 4 ก.ค. นี้ จะต้องโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นายเสรี กล่าวว่า มีเวลาอีกหลายวัน เขาคงไม่ปิดดีลกันวันนี้ เพราะยังมีอีกหลายเงื่อนไข ที่ไม่ยุติ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า หาก 2 พรรคใหญ่ไม่ลดเพดานของตนเอง จะทำให้เกิดปัญหาการตั้งรัฐบาลนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคต้องบริหารจัดการ

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการเปิดชื่อแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าเพื่อไทยจะเสนอนายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ สู้กับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล นายเสรี กล่าวว่า ตนไม่เชียร์ใคร แต่ดูจากประสบการณ์แล้วเห็นว่า นายชูศักดิ์ผ่านการเมืองมานาน และเป็นอาจารย์สอนหนังสือ ดังนั้นจึงภาษีดีกว่า แต่ขณะนี้ไม่ว่าใครได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่ว่าพรรคจะเสนอใคร