น.ส.ขนิษฐา พันธุ์วรวัฒน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมอสโก ประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับสัญญาณที่ดีว่า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหลายรายสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะในเดือนก.ย.นี้ จะเริ่มเขาสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวรัสเซียส่วนใหญ่เริ่มเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ โดยจากการสอบถามจากสถานทูตไทย พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นมา หลังจากคณะกรรมการด้านวิชาการ ตามพ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ได้เห็นชอบในหลักการให้รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนสปุตนิก วี สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ก็เริ่มมีชาวรัสเซียยืนขอหนังสืออนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย (ซีโออี) เฉลี่ยวันละ 100 รายแล้ว
ทั้งนี้ในจำนวนนักท่องเที่ยวของรัสเซียที่ยืนขอ ซีโออี เข้ามานั้น เกือบทั้งหมดจะเดินทางเข้ามายังพื้นที่นำร่องของไทย ทั้งภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล เป็นหลัก ส่วนการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียที่จะเดินทางเข้ามาในไทยปีนี้ ล่าสุดยังไม่ได้มีการประเมิน เพราะต้องติดตามสถานการณ์ก่อนว่า รัฐบาลไทยจะผ่อนปรนประกาศต่าง ๆ หรือไม่ โดยเฉพาะการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งยังไม่อนุญาตให้เปิดเส้นทางการบินระหว่างไทย – รัสเซีย แบบปกติ จึงทำให้เที่ยวบินปกติจากไทย และเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำของรัสเซียทำการบินไป-มาระหว่างกันไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ ททท. มอสโกได้เสนอปัญหาไปยัง ททท.ส่วนกลาง เพื่อหาทางแก้ไข
“การพิจารณาเปิดน่านฟ้าเพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศทำการบินแบบปกติระหว่างกันได้นั้น จำเป็นต้องพิจารณาในระดับนโยบาย ล่าสุดรับทราบว่า ในสัปดาห์นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมหารือกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ซึ่ง ททท. มอสโก ได้นำเสนอเรื่องข้อติดขัดต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคไปยัง ททท. ส่วนกลางแล้ว เพื่อนำเรื่องนี้เข้าหารือกับทูตรัสเซียช่วยผลักดันต่อไป”
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของนักท่องเที่ยวรัสเซียส่วนใหญ่ชอบประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล ทั้งภูเก็ต เกาะสมุย และพัทยา เบื้องต้น ททท. ได้ตั้งเป้าหมายปี 65 จะมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาไทยประมาณ 5-7 แสนคน ซึ่งถือว่าฟื้นตัวดีขึ้น จากเดิมในปี 63 ที่มีเข้ามาจำนวนมากถึง 1.4 ล้านคน สร้างรายได้ 102,895 ล้านบาท
