หลบหลีกความวุ่นวายในเมืองสู่วิถีชนบทอันร่มรื่นของชุมชนคลองเขื่อน ห้องเรียนสีเขียวที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้ศาสาตร์ด้านเกษตรกับชุมชน และย่างก้าวไปบนผืนดินที่พืชผลนานาพันธุ์เจริญงอกงาม ณ “ชุมชนคลองเขื่อน” หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรยั่งยืน จ.ฉะเชิงเทรา

คำว่า “คลองเขื่อน” ถูกปรับมาจากคำว่า “คลองเขิน” ตามลักษณะคลองแห่งหนึ่งในชุมชนที่ตื้นเขิน ภายหลังได้ถูกเปลี่ยนเป็นคลองเขื่อนเพื่อความไพเราะ ชุมชนนี้แยกตัวออกมาจากอำเภอบางคล้า และถูกยกฐานะให้เป็นอำเภอเมื่อปี 2550 มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการปลูกมะม่วงรสชาติดีอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย และยังเป็นสินค้าที่ได้รับมาตราฐาน GI ส่งออกไปยังนานาประเทศ ทั้งญี่ปุ่น จีน เวียดนาม ฯลฯ มีแม่น้ำบางปะกงและ คลองเล็ก ๆ หลายสายเป็นขุมทรัพย์ทางอาหารของพืชพรรณในชุมชน

เดิมทีชาวบ้านจะทำนา ปลูกบ้านอยู่ตามชายน้ำ มีการทำประมงกัน ต่อมาเริ่มทำสวนผลไม้ตามชาวจีนที่อพยพมาแถบนี้ แต่เกิดน้ำท่วมหลายครั้ง ทำให้นาข้าวกับสวนเสียหาย เลยเปลี่ยนมาเป็นบ่อกุ้ง บ่อปลา และทำไร่นา สวนเกษตรผสมผสาน เป็นเกษตรทฤษฎีใหม่จนถึงปัจจุบัน

ไม่เพียงเท่านั้นยังจับมือกันพัฒนาบ้านให้กลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว ด้วยการพานั่งรถอีแต๊กวนรอบชุมชนรับลมธรรมชาติสูดกลิ่นอายบ้านทุ่ง ตามเส้นทางที่แวดล้อมไปด้วยสวนเขียวขจี กำแพงต้นคูนที่ออกดอกเหลืองอร่าม และทิวทัศน์งามตาของนาผืนกว้างพร้อมกับแวะชมวิถีชีวิตของชาวคลองเขื่อน เก็บเกี่ยวความรู้และพูดคุยกับเกษตรกรท่ามกลางสวนพืชผักผลไม้ ผ่านฐานเรียนรู้ทั้งการปลูกผักสวนครัว สวนมะม่วง สวนเกษตรผสมผสาน ภูมิปัญญาพื้นบ้าน หรือจะบุกตะลุยสวนมะพร้าวน้ำหอม สอบถามเพิ่มเติมที่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองเขื่อน โทร. 0-3850-9137

มาแถวคลองเขื่อนแล้วถ้ามีเวลาชวนไปแวะชมนกชมไม้ที่ “สวนปาล์มฟาร์มนก” แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาและอนุรักษ์นกแก้ว ที่มีการรวบรวมสายพันธุ์นกแก้วไว้มากที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ท่ามกลางบรรยากาศสวนปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม จะลองให้อาหารนกแก้ว หรือจะเพลิดเพลินกับการชมนกแก้วมาคอว์ นกแก้วไฮยาซิน หงส์ แพะ แกะ กวาง และสัตว์อีกหลายชนิด พร้อมชมกระบวนการเพาะเลี้ยงลูกนก อยากนอนฟังเสียงนกขับขานก็มีที่พักระดับมาตรฐานไว้บริการ เปิดตั้งแต่ 09.30-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เพิ่มเวลาให้ถึง 18.00 น. สอบถามโทร. 08-0587-1911, 08-1868-1174 หรือเข้าไปดูที่ เฟสบุ๊ค: Suanpalmfarmnok และ www.suanpalmfarmnok.com

แนวรักศิลปะแนะนำให้ไปเยี่ยมเยือน “คุ้มวิมานดิน”สถานที่ที่เกิดจากแนวคิดและแรงบันดาลใจของเจ้าของที่ต้องการพัฒนาผืนดินให้มีคุณค่าด้วยงานศิลป์และดินเผา มาสู่ศูนย์เรียนรู้การปั้นดินที่เสกสรรค์ชิ้นงานได้ไม่ซ้ำใคร ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สงบร่มรื่น ไม่เคยทำมาก่อนไม่ต้องกังวลเพราะกิจกรรมเวิร์กชอปที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้และแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ รับรองว่าได้ผลงานชิ้นเดียวในโลกกลับบ้านไปด้วยแน่นอน แนะนำว่าให้ฝากชิ้นงานไว้เพื่อนำไปเผาให้เสร็จสมบูรณ์ทุกขั้นตอน ทางคุ้มวิมานดินจะนำส่งตามไปให้ถึงบ้าน ใครไม่ถนัดปั้นแต่ถนัดช้อปมากกว่าก็มีของที่ระลึกไว้ให้เลือกซื้อด้วย เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามโทร. 08-7825-1338 หรือดูที่เฟสบุ๊ค: koomwimarndin และ www.koomwimarndin.com

ส่วนสายมูห้ามพลาดกับ “เทวสถานอุทยานพระพิฆเนศ” ที่มีองค์พระพิฆเนศองค์ยืนองค์ใหญ่ที่มองเห็นได้แต่ไกลริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ท่ามกลางธรรมชาติของสวนเกษตรแห่งอำเภอคลองเขื่อน เป็นเนื้อสำริด ความสูงรวมฐาน 39 เมตร พระหัตถ์ทั้งสี่ถือกล้วย อ้อย มะม่วง ขนุน ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดิน

ข้ามไปเพื่อบ้านใกล้เคียงอย่างจังหวัดสมุทรปราการ ณ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ ที่คอยผลิตออกซิเจนด้วยพื้นที่สีเขียวซึ่งยังคงหนาแน่นอย่างคุ้งบางกะเจ้า ท่ามกลางสวนผลไม้และคลองย่อยที่พาลัดเลาะไปทั่วพื้นที่ แม้วันนี้จะหลงเหลือไม่ถึง 36 สายแบบเมื่อครั้งอดีต เพราะเมื่อถนนเข้ามาแทนที่การสัญจรทางเรือ คลองซอยเล็ก ๆ หลายแห่งจึงเหลือแค่เพียงชื่อ แต่ไม่ใช่สำหรับ “ชุมชนบ้านบางกอบัว” ที่ยังคงมีสายน้ำเล็ก ๆ อย่างคลองแพอยู่คู่กับชุมชน ทั้งยังได้รับการอนุรักษ์ไว้ไม่ใช่เพียงแค่ให้คงอยู่ แต่ยังมีการดูแลใส่ใจจากผู้คนในชุมชนด้วย ทำให้กอจากสองข้างฝั่งยังคงทำหน้าที่ยึดเกาะดินไม่ให้ตลิ่งพังทลาย และเป็นแนวกันชนสำหรับขยะที่ไหลมาตามน้ำจากที่อื่น ๆ เพื่อจะออกไปยังประตูระบายน้ำที่อยู่เลยไปริมฝั่งเจ้าพระยา มีแนวกันชนคอยดักเก็บและมีสมาชิกคอยช่วยกันโกยออกเพื่อนำไปจัดการให้ถูกต้องต่อไป

นั่นไม่เพียงทำให้คลองแพยังคงอยู่หากแต่ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนมากมาย ต้องจับจองเพื่อมานั่งเรือแจวพร้อมฟังเพลงเห่เรือขับกล่อมจากฝีพาย ซึ่งนี่คือไฮไลท์และเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยววิถีชุมชน ณ บางกอบัว พื้นที่ที่เคยมีกอบัวขึ้นอยู่ตามหนองน้ำจำนวนมากจนกลายเป็นที่มาของชื่อ โดยนอกจากการนั่งเรือแล้วยังมีกิจกรรมอย่างการหัดทำลูกประคบสมุนไพรสด หรือสปาเท้าน้ำสมุนไพร มีเรี่ยวแรงหน่อยก็เช่าจักรยานปั่นลัดเลาะไปตามเส้นทางสีเขียว แวะกราบหลวงปู่เหมือน พระอริยสงฆ์แห่งบางกอบัวที่วัดบางกอบัว เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านคลองบน เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านของสะสมโบราณ เติมพลังกับเมนูจานเด็ดของชาวบางกอบัว “แกงกรุบมะพร้าวกุ้งสด” สนุกกับการลงมือออกแบบมัดลายผ้า ทำผ้ามัดย้อม D.I.Y. จากสีธรรมชาติผืนเดียวในโลก

หากมีเวลาแนะนำให้มานอนพักสูดอากาศบริสุทธิ์สักคืน ที่นี่มีโฮมสเตย์ให้เลือกพักได้หลากหลาย แล้วตอนเช้าก็ออกไปฟิตแอนด์เฟิร์มที่ “สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์” ขี่จักรยานลัดเลาะสวนท่ามกลางป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่สลับกับสวนพันธุ์ไม้ท้องถิ่นของชาวบ้าน เนื้อที่กว่า 200 ไร่ ของที่นี่จึงเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของสัตว์นานาชนิด ผ่อนคลายกับสายน้ำในสระใหญ่ เดินเล่นไปบนสะพานไม้ ชมเรือนเพาะชำ และขึ้นไปบนหอดูนกที่สามารถส่องนกและมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้สุดสายตา เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 05.00-19.00 น. สอบถามโทร. 0 2461 0972

สายช้อปต้องมาช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อจะได้ไม่พลาดกับ “ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง” แหล่งรวบรวมและจำหน่ายผลผลิตชุมชนกว่า 100 ร้าน ตลอดซุ้มทางเดินกว่า 2 กิโลเมตร จะพบกับอาหารพื้นเมืองหลากหลาย ทั้งปลาจับหลัก ขนมไทยโบราณ น้ำตาลมะพร้าว น้ำพริกรสเด็ด ก๋วยเตี๋ยวเรือ ผลิตภัณฑ์ OTOP ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ไม่ว่าจะเป็น น้ำสมุนไพร ธัญพืชประคบ ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา รวมถึงต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ส่งตรงจากสวนเกษตร และพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษจากรั้วบ้านในราคาย่อมเยา แถมด้านหลังตลาดยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติในโครงการสวนกลางมหานคร ที่พร้อมมอบความรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในคุ้งบางกะเจ้า และมีกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบางน้ำผึ้งด้วย สอบถามโทร. 0 2461 3254

คนชอบกิจกรรมที่บางน้ำผึ้งยังมีเวิร์กชอปอย่างการทำธูปหอมของ “วิสาหกิจชุมชนบ้านธูปหอมสมุนไพร”ให้ได้ลองฝีมือด้วย สมุนไพรผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาว ซึ่งมีคุณสมบัติไล่ยุงได้ดีเยี่ยมมาจากสมุนไพรรอบรั้ว อาทิ ขมิ้นชัน มะกรูด อบเชย แถมยังมีเวิร์กชอปผ้ามัดย้อมอีกอย่าง เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-15.00 น. ดูเพิ่มเติมที่เฟสบุ๊ค : บ้านธูปหอมสมุนไพร หรือโทร. 08 6569 1650, 0 2815 0729

หากหลงใหลลูกประคบสมุนไพร แนะนำให้ไปที่ “วิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตร์เพื่อสุขภาพ” จากลูกประคบสมุนไพรแบบเดิม ๆ พัฒนาสู่ธัญพืชลูกประคบพูลสุข ผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับผู้รักสุขภาพที่มอบความคงทนและสะดวกในการใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นลูกประคบสำหรับคอ หน้าท้อง ไหล่ สะบัก และหลัง ใช้กดตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายให้หายปวดเมื่อย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รู้สึกสบายตัวจากความร้อนของธัญพืชนานาชนิด มีทั้งแบบมาเรียนรู้การทำธัญพืชลูกประคบและสอนนวดสำหรับผู้ที่สนใจ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์ พบกันได้ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เวลา 08.00-16.00 น. ดูเพิ่มเติมที่เฟสบุ๊ค : ลูกประคบสมุนไพร ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง หรือโทร. 08 4009 2266

ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดไม่ไกลจากรุงเทพฯ มาเรียนรู้วิถีชุมชน ฟังเรื่องเล่าความพยายามในการปกป้องดูแลพื้นที่สีเขียวให้คงอยู่ท่ามกลางชุมชนเมืองที่ขยายตัวมาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุมชนให้คงอยู่อย่างยั่งยืนด้วยการมาเยี่ยมมาเยือน

สอบถามเส้นทางท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา (ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ) โทร. 0-3851-4009 และเฟสบุ๊ค : ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา : TAT Chachoengsao

ขอบคุณรูปภาพจาก ชุมชนบางกอบัว และ อบต.คลองเขื่อน