โดยมีรายงานข่าวจากการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยช่วงหนึ่ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อธิบายไทม์ไลน์การมีรัฐบาลชุดใหม่ ว่า “…ภายหลัง กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส.ส. จะต้องไปรายงานตัวที่สภา ในวันที่ 20-28 มิ.ย. 66 เมื่อเสร็จแล้วจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา จากนั้นจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 6 ก.ค. 66 จากนั้นประธานสภา เรียกประชุม 2 สภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค. คาดว่าจะมีการแต่งตั้ง ครม.ใหม่ ในวันที่ 21 ก.ค. และถวายสัตย์ฯ ในช่วงปลายเดือน ก.ค. ซึ่ง ครม.จะทำงานจนกว่า ครม.ชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงจะสิ้นสุดการทำงาน…”
ขณะที่ฝั่ง 8 พรรคร่วมรัฐบาล 312 เสียง ที่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นแกนนำ ก็เริ่มนับถอยหลัง ยกสุดท้ายในศึกเดิมพันอำนาจเลือกตั้งกระชั้นเข้ามาเช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนที่ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เจอพลัง “นิติสงคราม” รุมใส่ทั้งปมร้อนหุ้นไอทีวี ปม ม.151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในการตรวจสอบคุณสมบัติ รวมถึงด่านหินสุดโหดในการหา ส.ว. 64 เสียง เพื่อให้ได้เสียง 376 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งโอกาสริบหรี่ เพราะ ส.ว. วันนี้ ยังเป็นฐานอำนาจสำคัญของ “2 ป.”
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/06/pita.ig_347602046_635099984733634_49438902343337037_n.jpg)
แต่ศึกด่านแรก ของ “ก้าวไกล-เพื่อไทย” คือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่วันนี้ ไม่มีใครยอมใคร พรรคก้าวไกลก็สู้ไม่ถอย ขณะที่พรรคเพื่อไทยเล่นเกมตีสองหน้า ฉากหนึ่งก็โปรยยาหอมให้พรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 แต่ในทางปฏิบัติ ลูกพรรคกว่าร้อยละ 90 เดินหน้าแห่คัดค้านยกเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติให้พรรคก้าวไกล
ซึ่ง กูรูการเมืองอย่าง “อ.วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ก็อ่านขาดว่า ถ้าทั้ง 2 พรรคใหญ่ตกลงกันเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ ก็จะสะเทือนถึงการตั้งรัฐบาลแน่นอน
ทำให้เกิดช่อง ดีลลับ เปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลทันที ท่ามกลางข่าวลือสะพัดการบินไป อังกฤษ ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในช่วงค่ำคืนของวันที่ 20-25 มิ.ย. นี้ กระพือข้ามทวีปว่า “ดีลลับ…โอเคแล้ว” ขณะที่ แกนนำพรรคก้าวไกล ก็ต้องออกมาปฏิเสธข่าว “ผู้นำจิตวิญญาณ” โทรศัพท์ไป จ.บุรีรัมย์ หา “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ ขอเสียงสนับสนุนโหวต “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรี ตรงนี้แสดงให้เห็นถึงความหวาดระแวง ไม่ไว้ใจพรรคเพื่อไทยเช่นกัน??
ดังนั้น ศึกช่วงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ก.ค. นี้ จะเป็นตัวพิสูจน์ว่า 8 พรรคร่วมรัฐบาล จะตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ หรือจะเป็นจุดแตกหักกันแน่!!