ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พีระยานุเคราะห์ 4 บ้านบูกาสาแลแม หมู่ 4 ตำบลปะโด อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี นางสาวนิชาภา หมื่นไกร กลุ่มงานขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริจังหวัดชายแดนภาคใต้ กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ ศอ.บต. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และติดตามการจัดการเรียนการสอนของวิทยากรผู้สอนภาษาไทย พร้อมพูดคุยให้กำลังใจกับ ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พีระยานุเคราะห์ 4 และคณะครูภายในโรงเรียน โดยมีศิษย์เก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พีระยานุเคราะห์ 4 ในพื้นที่กว่า 10 คน ร่วมกันพัฒนาภูมิทัศน์บริเวณโรงเรียนโดยทำแปลงเกษตรสมุนไพร เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน ตชด.

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ทาง ศอ.บต. มีนโยบายการติดตามผลการดำเนินงานของวิทยากรผู้สอนภาษาไทย พร้อมให้ขวัญกำลังใจแก่ครู และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพราะโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนถือเป็นโรงเรียนที่จัดตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จึงทำให้การใช้ชีวิตประจำวันแตกต่างกันโดยเฉพาะการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารระหว่างกัน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้มีพระกระแสรับสั่งให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ใช้การสอนวิชาภาษาไทยแบบการผลิตสื่อและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย การผลิตหนังสือนิทานสำหรับเด็กเพื่อส่งเสริมการอ่านภาษาไทยและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนดีขึ้นตลอดจนการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องในการใช้สื่อสารกับชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พีระยานุเคราะห์ 4 จะเน้นในเรื่องการใช้วิชาภาษาไทยและวิชาต่างๆแล้ว ยังได้เน้นในเรื่องของความอดทน ความพอเพียง และการทำเกษตรกรรม เพื่อใช้ในโครงการอาหารกลางวัน โดยให้น้องๆ ได้ร่วมกันรับผิดชอบการปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์เพื่อให้รู้ถึงประโยชน์ที่ได้ คือ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้หลังเรียนจบ โรงเรียนมีรายได้จากการขายผัก ปลา เนื้อไก่ และไข่ไก่ นำมาเป็นทุนอาหารกลางวัน ที่สำคัญสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน ช่วยยกระดับชีวิต และเศรษฐกิจของครอบครัวให้ดีขึ้นในอนาคต