สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ว่า คนนับร้อยได้ช่วยกันตามหา ด.ช.แอนโธนี “เอเจ” เอลฟาลัก วัย 3 ขวบ เด็กชายออทิสติกและสื่อสารไม่ได้ นับตั้งแต่หายตัวไปตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยหายตัวไปจากบ้านใกล้กับหมู่บ้านพัตตี้ ทางเหนือของเมืองซิดนีย์รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย จนกระทั่งเมื่อสายวันจันทร์ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจได้พบเด็กชายนั่งอยู่ในลำธารน้ำตื้น สวมเสื้อเชิ้ตเปียกชุ่มเหงื่อและผ้าอ้อม นั่งวักน้ำดื่มจากลำธาร ซึ่งจุดที่พบอยู่ห่างจากบ้าน 470 เมตร ทั้งนี้จากการเปิดเผยของสารวัตรตำรวจเทรซี แชปแมน
เจ้าหน้าที่รถพยาบาลเปิดเผยว่า เด็กชายอยู่ในสภาพปลอดภัยแต่ก็ต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ส่วนพ่อของเด็กชายคือนายแอนโธนี เอลฟาลัก บอกว่าเอเจมีรอยถูกมดกัด ผื่นคันและรอยขีดข่วน ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เขากับภรรยาเคลลี เอลฟาลัก ได้กลับมาพบหน้าลูกชายอีกครั้ง เอเจกลับมาหาแม่เขาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงแม่เรียก เขาลืมตาดูแม่และมองหน้าแม่ ก่อนที่จะหลับไป
สารวัตรตำรวจแชปแมนบอกอีกว่า จุดที่พบเอเจนั้น เจ้าหน้าที่ได้ค้นหาแล้วและกลับมาค้นหาทั้งบริเวณป่าอีกครั้ง และความสามารถในการหาน้ำดื่มของเอเจคือกุญแจสำคัญที่ทำให้เขามีชีวิตรอดมาได้ จากอาการขาดน้ำ นอกจากนั้นอุณหภูมิในช่วงกลางคืนก็ลดต่ำเหลือ 6 องศาเซลเซียส
นายไซมอน เมอร์ริค หัวหน้าหน่วยบริการฉุกเฉินรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่า เอเจคลานอยู่ในลำธารตอนที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินไปถึงตัว เจ้าหน้าที่เอื้อมมือไปแตะบ่าของเด็กชาย ซึ่งหันกลับมามองเจ้าหน้าที่ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นภาพที่เจ้าหน้าที่บอกว่า จะไม่มีวันลืมไปได้
นายเจอร์รี ไพค์ เจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินซึ่งทำหน้าที่ตรวจร่างกายของเอเจ บอกว่า เขาเป็นเด็กชายผู้รอดชีวิตตัวน้อย อาการทั่วไปดูปกติ แต่เขามีดวงตาที่แสดงความขอบคุณ เขาหลับไปในรถพยาบาล ซึ่งมีพ่อแม่นั่งไปด้วย และตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยความหิว จึงรับประทานพิซซ่าไปสามชิ้นและกล้วยหอมอีกหนึ่งใบ
เครดิตภาพ AP
