ซาอุดี โปรเฟสชั่นแนล ลีก หรือคนไทยเรียกง่ายๆ ว่า “ลีก ซาอุฯ” กำลังเป็นลีกที่ได้รับสนใจ และเต็มไปด้วยข่าวลือกับนักเตะดังๆ มากมายในตอนนี้ หลังจากปีที่แล้ว สร้างความตื่นเต้นในวงการฟุตบอล ด้วยการเซ็นนักเตะอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ถือเป็นการจุดประกายให้โลกรู้จักลีกลูกหนังแห่งนี้ และอะไรคือสิ่งที่ทำให้ลีกนี้กำลังเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก? บทความนี้มีคำตอบ…
ทำความรู้จัก ซาอุฯ ลีก
ซาอุดี โปรเฟสชั่นแนล ลีก เป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศ ซาอุดีอาระเบีย ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1976 ปัจจุบันมี 16 ทีม และจะมีการแข่งขันกันในลีก 30 นัดต่อฤดูกาล โดยสโมสรที่คว้าแชมป์ลีกได้มากที่สุดคือ อัล ฮิลาล ซึ่งคว้าแชมป์ไป 14 สมัย และเคยคว้าแชมป์ระดับทวีปในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย
จุดประกายความน่าสนใจของ ซาอุฯ ลีก
ก่อนหน้านี้ ซาอุฯ โปร ลีก ไม่ได้เป็นที่น่าสนใจนัก แต่หลังจากทีม อัล นาสเซอร์ ดีกรีแชมป์ลีก 9 สมัย คว้าดาวยิงระดับโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัยมาร่วมทีม ก็เป็นตัวจุดประกายความน่าสนใจให้ลีกนี้มากขึ้น “ซีอาร์ 7” ย้ายมาร่วมทีม หลังจากเจ้าตัวแตกหักกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนยกเลิกสัญญาไป โดยดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส เซ็นสัญญากับ 2 ปี รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ราว 200 ล้านยูโรต่อปี (ประมาณ 7.4 พันล้านบาท)
ก่อนหน้าการมาของ โรนัลโด จริง ๆ ก็มีนักเตะดังย้ายมาก่อนแล้ว เช่น มุสซา มาเรกา อดีตกองหน้าของ เอฟซี ปอร์โต ทีมใหญ่จากโปรตุเกส ย้ายมาอยู่กับทีม อัล ฮิลาล และ หลุยซ์ กุสตาโว อดีตกองกลางทีมชาติบราซิล ที่ย้ายมาร่วมทีม อัล นาสเซอร์ ก่อน โรนัลโด
โรนัลโด เอฟเฟกต์
โรนัลโด ไม่เพียงแต่มาเพื่อเล่นฟุตบอลเท่านั้น เขายังช่วยโปรโมตลีกอยู่เสมอ ถึงขั้นบอกว่า ซาอุฯ โปร ลีก สามารถขึ้นมาเป็นท็อป 5 ลีกของโลกได้ “หากดึงดูดนักเตะชื่อดังเข้ามาเพิ่ม” และยังบอกอีกว่า ไม่ว่าจะเป็นนักเตะที่ดัง ดาวรุ่งหรือตัวเก๋า พวกเขาก็จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีหากย้ายมา
ซึ่งการย้ายมา และการพูดของนักเตะทรงอิทธิพลอย่าง โรนัลโด สามารถสร้างเอฟเฟกต์ต่อสิ่งต่างๆ ได้มากมาย ยกตัวอย่าง ก่อนเจ้าตัวเซ็นสัญญากับ อัล นาสเซอร์ ตัวเลขผู้ติดตามอินสตาแกรมของสโมสร มีไม่ถึง 1 ล้านคน แต่หลังจาก “ซีอาร์ 7” ย้ายมา ยอดฟอลโลว์พุ่งไปเกือบ 15 ล้านคน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่ดาวเตะเลือดฝอยทองมีต่อ ซาอุฯ ลีก และวงการฟุตบอลได้อย่างชัดเจน
ความท้าทายใหม่ๆ และโอกาสการพัฒนาในอนาคต
ซาอุฯ โปร ลีก นั้น เป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจ เพราะนี่คือลีกระดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย และมีแนวทางการพัฒนาต่อไปในอนาคตที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นลีกมี VAR ใช้แล้ว นี่อาจเป็นหนึ่งในความท้าทายที่หลายคน รวมถึง โรนัลโด เห็น
และนักเตะคนล่าสุดที่เพิ่งย้ายไปเล่นในลีกนี้คือ คาริม เบนเซมา กองหน้ากัปตันทีมของ รีล มาดริด อดีตเพื่อนร่วมทีมของ โรนัลโด ที่ตัดสินใจย้ายออกจาก “ราชันชุดขาว” หลังจบฤดูกาล และเซ็นสัญญา กับทีม อัล อิตติอัด อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ใน ซาอุฯ โปร ลีก
เบนเซมา กล่าวว่า “นี่คือความท้าทายใหม่ของผม นี่เป็นลีกที่ดี และมีนักเตะที่ดีมากมาย” และยังกล่าวถึง โรนัลโด ว่า “คริสเตียโน ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว เขาคือเพื่อนของผม ที่แสดงให้เห็นว่า ซาอุดีอาระเบีย กำลังก้าวหน้า” ขณะที่ โรนัลโด ก็เคยพูดแนวๆ เดียวกันก่อนหน้านี้ ว่า “ลีกนี้เป็นลีกที่ดี พวกเรามีหลายโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่านี้ ลีกนี้มีการแข่งขันที่สูง มีทีมที่ดี และมีผู้เล่นอาหรับเก่งๆ อยู่หลายคน”
ขณะเดียวกัน ซาอุฯ โปร ลีก ยังได้รับการสนับสนุนอย่างสูงสุดจากรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนลีกแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งใน 10 ลีกที่ดีที่สุดในโลก และต้องการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของลีกขึ้นเป็นสามเท่า
รับทรัพย์ก้อนโต
ทีมในประเทศซาอุฯ มีกำลังจ่ายซื้อที่สูง หรือว่าง่ายๆ ก็คือรวยสุดๆ อย่าง เบนเซมา ที่เพิ่งย้ายมา รับค่าเหนื่อยสูงถึง 100 ล้านยูโร ต่อปี (ประมาณ 3.7 พันล้านบาท) ไม่รวมสัญญาค่าโฆษณา และการโปรโมตให้ ซาอุดีอาระเบีย เป็นเจ้าภาพบอลโลก 2030 ถ้ารวมก็อยู่ราวๆ 200 ล้านยูโรต่อปี ใกล้เคียงกับค่าเหนื่อยต่อปีของ โรนัลโด
หากกล่าวถึงการใช้เงินซื้อนักเตะดังๆ เข้าไปในลีก หลายคงจำเหตุการณ์เมื่อช่วงปี 2017 ซึ่ง เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ทีมใน ไชนีส ซูเปอร์ ลีก ประเทศจีน ทุ่มเงินซื้อ ออสการ์ กองกลางของเชลซี ที่กำลังอยู่ในช่วงพีคขณะนั้น และเป็นที่หมายปองของบิ๊กทีมในยุโรปไปร่วมทีม ด้วยค่าตัวที่สูงลิ่ว ประมาณ 60 ล้านยูโร (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) แถมรับค่าเหนื่อยสูงเป็นอันดับ 5 ของโลกตอนนั้น ซึ่งเขาก็ออกมายอมรับตรงๆ ว่าย้ายไปเพราะ “เงิน” อีกทั้งยังมีนักเตะดังหลายคน ย้ายตามมาเล่นที่จีน เช่น มารูยาน เฟลไลนี, เปาลินโญ, ฮัลค์, คาร์ลอส เตเวซ เป็นต้น
ซาอุฯ กำลังจะทำเหมือนจีนในช่วงปี 2016 นั่นก็คือการใช้เงินซื้อนักเตะดังๆ เข้าทีม แต่ต่างกันที่พวกเขา มีแนวทางการพัฒนาที่น่าสนใจ มีความทะเยอทะยานที่จะก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน และการมีนักเตะอย่าง โรนัลโด เจ้าของบัลลงดอร์ล่าสุดอย่าง เบนเซมา ที่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา ขับเคลื่อนลีก และอาจมีนักเตะระดับโลกคนอื่นๆ ตามมา เช่น เอ็นโกโล ก็องเต, ลูกา โมดริช
นอกจากเรื่องในลีกแล้ว พวกเขายังหวังจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 ด้วยการโปรโมตผ่านนักเตะดังที่พวกเขาเซ็นมา ด้วยแนวทางที่ชัดเจน การมีคุณภาพผู้เล่นที่ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ รวมถึงการมีนักเตะระดับโลกอยู่ในลีก เราอาจจะได้เห็น ซาอุฯ โปร ลีก พัฒนาต่อไปในอนาคต และมีโอกาสติดอันดับท็อป 5 ลีก ของโลก ตามที่ โรนัลโด บอกไว้
