วันที่ 5 ก.ค. นายกฤติยา ก้อนทอง รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงกรณีเหตุระเบิดภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกใน ซ.กิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า สนามบินสุวรรณภูมิกำลังตรวจสอบเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด จากการประสานงานกับศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศสุวรรณภูมิ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และกองอุตุนิยมวิทยาการบิน กรมอุตุนิยมวิทยา ทสภ. ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการขึ้น-ลง ของอากาศยานและยังคงสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ

นายกฤติยา กล่าวต่อว่า ทางสนามบินได้ติดตามข้อมูลและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานฝ่ายปกครอง และศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนไว้รองรับหากเกิดกรณีฉุกเฉินไว้แล้ว พร้อมกันนี้ ทสภ. ได้ให้การสนับสนุนภารกิจบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนให้เร็วที่สุด ในการนี้ ทสภ. ได้จัดพื้นที่บริเวณใกล้เคียงสถานีดับเพลิงและกู้ภัยฝั่งตะวันตกซึ่งอยู่ในเขตการบิน เป็นพื้นที่สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมสนับสนุนน้ำสำรองสำหรับใช้ในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ด้วย

ด้าน นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการ ทสภ. กล่าวว่า ยอมรับว่ามีพื้นที่บางส่วนที่อยู่ในรัศมีอพยพ 5 กิโลเมตร คือพื้นที่ส่วนที่เป็นออฟฟิศสำนักโครงการ ซึ่งล่าสุดสั่งให้พนักงานทำงานที่บ้านแล้ว

ขณะที่ นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มควันจากการระเบิดยังไม่รบกวนทัศนวิสัยของนักบิน เนื่องจากกลุ่มควันได้มีการลอยขึ้นสูงก่อนที่จะพัดมายังแนวร่อนของสนามบิน จึงยังไม่กระทบแนวร่อนขึ้นและลงของอากาศยาน โดยยังทำการบินได้ตามปกติ ปัจจุบันมีการทำการบินราว 200 เที่ยวบินต่อวัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากขณะนี้ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ และยังต้องเฝ้าระวังการระเบิดระลอก 2 สำหรับถังเคมี 2 หมื่นลิตร เพราะอยู่ห่างจากกึ่งกลางทางวิ่งรันเวย์ ด้านตะวันตกไม่ไกลมาก ราว 2-3 กิโลเมตร หากมีการระเบิดเกิดขึ้นจริง ต้องเร่งประเมินความเสียหายว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะบริเวณรันเวย์ว่าแตกร้าวหรือไม่ และมีกลุ่มควันเข้ามารบกวนภายในสนามบินแนวร่อน ทางขับหรือแท็กซี่เวย์และรันเวย์ มากน้อยแค่ไหน หากรันเวย์เสียหายแตกร้าว หรือกลุ่มควันลอยต่ำ อาจส่งผลกระทบต่อการทำการบิน

รายงานข่าวจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจ้งว่า แรงสั่นสะเทือนของระเบิดในช่วงตี 3 ส่งผลกระทบทำให้อาคารผู้โดยสารหรือ Main Terminal Building (MTB) ได้รับผลกระทบเสียหาย ดังนี้ 1.ประตูบานเลื่อนเข้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ทุกประตูหลุดจากรางเลื่อนทำให้ปิดไม่สนิท 2.ประตูบานเลื่อนประตูทางออกขึ้นเครื่องที่ต้องนั่งรถต่อไปขึ้นเครื่อง(Bus Gate) ชั้น 1 ฝั่งตะวันตก และตะวันออก หลุดออกจากรางเลื่อน และ 3.เกิดสัญญาณเตือนภัย ดับเพลิงบริเวณ Concourse E,F,G ขณะนี้ศูนย์ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจอุปกรณ์เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ใช้งานได้ตามปกติแล้ว