เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีการจัดซื้อจัดจ้างจัดงานรณรงค์เทคโนโลยีการเกษตรของกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ไม่เหมาะสม โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการภายในกระทรวงเกษตรฯ ว่า มีการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เหมาะสมและเร่งรีบจนผิดสังเกต ในโครงการ “งานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยี ลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร” เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจําปี 66

โดยรายละเอียดความผิดปกติมีหลายข้อ เช่น เดิมตามเอกสารอนุมัติโครงการครั้งแรกวันที่ 20 ก.พ. โครงการวันข้าวแห่งชาติของกรมการข้าว มีแผนจะจัดขึ้นในวันที่ 1-7 มิ.ย. ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี งบประมาณในการของบครั้งแรก 15 ล้านบาท เป้าหมายมีผู้เข้าร่วม 2.5 หมื่นคน

ต่อมาวันที่ 19 เม.ย. เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้แผนงานของกรมไม่สามารถเป็นไปตามที่คาดหมาย ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแผนจัดงาน จากงานสเกลใหญ่งานเดียวที่ใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท ลดขนาดลงเป็นกิจกรรม 3 ครั้ง งบประมาณรวม 7.5 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 1.การจัดกิจกรรมที่กรมการข้าว กทม. วันที่ 5-6 มิ.ย. งบ 3 ล้านบาท 2.การจัดกิจกรรมที่ศูนย์วิจัยข้าว จ.พิษณุโลก วันที่ 16-17 มิ.ย. งบ 1.5 ล้านบาท 3.การจัดกิจกรรมที่ศูนย์วิจัยข้าว จ.นครราชสีมา วันที่ 23-24 มิ.ย. งบ 1.5 ล้านบาท โดยมีงบประชาสัมพันธ์ 1.5 ล้านบาท

นายกรุณพล กล่าวอีกว่า แต่เหมือนกรมการข้าวกลัวจะใช้เงินน้อยไปหรือไม่ วันที่ 9 พ.ค. กรมการข้าวกลับขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีกเป็น 5 ล้านบาท อ้างว่าเป็นเพราะขยายเวลาจัดงานเพิ่มขึ้น 1 วัน จาก 5-6 มิ.ย. เป็น 5-7 มิ.ย. โดยรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างผิดสังเกต เช่น ค่าใช้จ่ายการจัดนิทรรศการและแสดงผลงาน เพิ่มจาก 4 แสนบาท เป็น 1 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายการเชิดชูเกียรติและแสดงผลงานชาวนาและสถาบันชาวนา เดิมอยู่ที่ 1 แสนบาท เพิ่มเป็น 5 แสนบาท

การตั้งงบประมาณอย่างน่าสงสัยดังกล่าว ทำให้ข้าราชการในกระทรวงเกษตรฯ ร้องเรียนมาที่พรรคก้าวไกล ฝากให้พรรคตั้งคำถามถึงหน่วยงานและผู้บริหารหน่วยงานในขณะนี้คือ 1. การจ้างออแกไนเซอร์มีความโปร่งใสหรือไม่ เนื่องจากระยะเวลาการเซ็นสัญญาคือ 29 พ.ค. กับวันจัดงานคือ 5 มิ.ย. เป็นไปอย่างกระชั้นชิด และการหาออแกไนเซอร์ก็มีข้อน่าสงสัย เนื่องจากงานดังกล่าวเป็นงานประจำปี จัดขึ้นทุกปีในช่วงเวลาเดียวกัน แต่กลับเป็นการเชิญให้ออแกไนเซอร์เข้ามาเสนอราคา แทนที่จะเป็นการประกวดราคาหรือ e-bidding ตามระเบียบราชการ ทั้งที่มีเวลาหลายเดือนในการเตรียมงานนี้ นอกจากนั้น ผู้ได้รับเชิญมีถึง 4 ราย แต่กลับมีผู้เสนอราคาเพียง 1 ราย และเป็นรายที่ร่วมงานกับกรมการข้าวมายาวนาน

อีกทั้งการใช้งบประชาสัมพันธ์ 1.5 ล้านบาท ไม่มีประสิทธิภาพและไม่สามารถตอบวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่กิจกรรมภายในงานและการให้ความรู้แก่เกษตรกรหรือประชาชนที่สนใจเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการเกษตร นอกจากนี้ กิจกรรมที่จะจัดในภูมิภาคอีก 2 แห่ง คือพิษณุโลกและนครราชสีมา ยังเป็นออแกไนเซอร์รายเดิม โดยมีข้อสงสัยว่าจะมีการรื้อบอร์ดและนำอุปกรณ์โครงสร้างต่างๆ จากที่จัดกิจกรรมที่ กทม. ไปใช้งานหรือไม่ ทั้งๆ ที่งานในส่วนภูมิภาคได้รับงบแยกไปจังหวัดละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งพรรคก้าวไกลจำเป็นต้องลงพื้นที่ตรวจสอบในวันดังกล่าวด้วย

นายกรุณพล ยังได้แสดงภาพบรรยากาศภายในงานจากการลงพื้นที่จริง พบว่าเป็นไปตามที่มีการร้องเรียนจริง เช่น ทางเข้าและบรรยากาศภายในงานเงียบเหงา เห็นได้ชัดเจนว่าผู้มาร่วมไม่น่าถึง 1 หมื่นคนตามที่กล่าวอ้าง มีการใช้ทรัพยากรของกรมไปจัดงานจริง ทั้งๆ ที่มีงบประมาณถึง 5 ล้านบาท ในการจ้างออแกไนเซอร์ ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่เป็นหน่วยราชการที่มาออกบูธด้วยกันเอง และเรายังมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอว่ามีการจ้างเกษตรกรมาร่วมงาน เพื่อให้มีภาพนำเสนอให้ตรงกับวัตถุประสงค์การจัดงาน

นอกจากการส่งเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบแล้ว สิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการสื่อสารไปถึงสังคมและหน่วยราชการก็คือ งบประมาณจัดอีเวนต์หลัก 5-10 ล้านบาท อาจดูเหมือนเล็ก แต่เราไม่รู้ว่ามีกิจกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นกับหน่วยราชการอีกไม่รู้เท่าไร ซึ่งรวมๆ แล้วเป็นเงินจำนวนมาก ที่เราสามารถจัดสรรงบประมาณใหม่ให้เกิดประโยชน์กับการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศจริงๆ ได้

“ถึงเวลาที่รัฐบาลใหม่และพรรคก้าวไกล จะเข้ามาร่วมมือกับประชาชนและข้าราชการน้ำดีในการแก้ไข เราเชื่อว่าในหน่วยงานราชการต่างๆ มีข้าราชการน้ำดีที่อยากเห็นการทำงานที่โปร่งใส สร้างประโยชน์สูงสุดให้ประชาชน ดังนั้น ในรัฐบาลหน้า ในสภาสมัยหน้า พวกเราพรรคก้าวไกล จะไม่ยอมให้มีการใช้งบประมาณอย่างไม่เหมาะสม ไม่เกิดประโยชน์แบบนี้ขึ้นอีก ถึงเวลาเลิกงบไม่เหมาะสม ได้เวลาใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาประเทศ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชน” นายกรุณพล กล่าว