เมื่อวันที่ 5 พ.ค. “ปุยเมฆ นภสร” หรือ พญ.นภสร วีระยุทธวิไล นักแสดงสาว ได้โพสต์เล่าในทวิตเตอร์ว่า “เห็นช่วงนี้กระแสข่าว intern ลาออกจากระบบกันเยอะ ขอพูดในฐานะคนที่เพิ่งตัดสินใจลาออกมาละกัน งานในระบบหนักจริง แต่ถามว่าอยู่ในระดับทนได้มั้ย ทนได้ ไม่ตาย แต่ใกล้ตาย เสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต”
วินาทีที่ตัดสินใจลาออก คือ ตอนนั้นวน med อยู่เวรทั้งคืน มาราวน์เช้าต่อ ชาร์จกองตรงหน้าเกือบ 40 คนไข้ นอนล้นวอร์ดเสริมเตียงไปถึงหน้าลิฟต์ ภาพหดหู่มาก แถมเหนื่อยและง่วง ราวน์คนเดียวทั้งสาย สตาฟฟ์มา 10 โมง เดินมาถาม ‘น้องยังราวน์ไม่เสร็จหรอ ต้องเร็วกว่านี้นะ’ วินาทีนั้นตัดสินใจเลย ดอบบี้ขอลา
คือเข้าใจว่างานมันเยอะ หนักทั้ง intern ทั้ง staff แหละ (staff เองก็ไม่ไหว ลาออกก็เยอะ) และมันดูไม่มีทางออกให้กับปัญหานี้เลย รพ.ไม่มีแนวโน้มจ้างคนเพิ่ม ลดลงทุกปี บอกกระทรวงลดงบ คนทำงานหารหน้าที่กันจนไม่รู้จะหารยังไง เหมือนอยู่เป็นแรงงานทาสไปเรื่อยๆ อะ ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
อันนี้ตลกมาก ตอนนั้นรู้สึกอยู่ในจุดอ่อนแอสุดๆ จนต้องเซลฟี่เก็บไว้รูปแรก งานเยอะจนท้อ น้ำตาไหลอยู่หน้าคอมตอนดูแล็บคนไข้ ไม่อยากให้คนเห็นว่าร้อง อายเขา เลยหลบมาร้องในห้องน้ำหลังวอร์ด
รูปสอง โมเมนต์ในทุกเช้า ถามตัวเอง สู้ 6 ปีเพื่อมาเจอสิ่งนี้หรอ จึงเกิดภาพ ‘หนูนิดไม่อยากไปทำงาน’ 555 ถือว่าแชร์ให้ฟังละกัน มันก็มีทั้งคนที่ทนได้ กับทนไม่ได้ เราคงมี treshold ความเหนื่อยไม่สูงมากไม่ชอบการพักผ่อนน้อยแล้วมาทำงาน รู้สึกตัวเองจะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเท่าที่ควร ก็คิดว่าถอยดีกว่า ไปหางานที่เหมาะกับเราข้างนอกทำดีกว่า ไม่เป็นข้าราชการก็ไม่ตายแก สู้! ถือว่าแชร์ให้ฟังละกัน มันก็มีทั้งคนที่ทนได้ กับทนไม่ได้ เราคงมี treshold ความเหนื่อยไม่สูงมาก ไม่ชอบการพักผ่อนน้อยแล้วมาทำงาน รู้สึกตัวเองจะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเท่าที่ควร ก็คิดว่าถอยดีกว่า ไปหางานที่เหมาะกับเราข้างนอกทำดีกว่า ไม่เป็นข้าราชการก็ไม่ตายแก สู้เราเชื่อว่าอนาคต อย่างน้อยวงการหมอก็จะไม่ toxic เท่าเหมือนที่ผ่านๆ มา น่าจะน่าอยู่มากขึ้น (ในด้านสังคม) เพราะเท่าที่สัมผัส ไม่ค่อยพบเจอถ้อยคำบั่นทอนจาก young staff เลย เหมือนคนรุ่นใหม่มีความเห็นอกเห็นใจ ใจเขาใจเรากันมากขึ้นอ่ะ ทั้งกับคนทำงานด้วยกันและกับคนไข้
พี่ๆ เป็นหมอที่ดีมากจริงๆ เดี๋ยวจะหาว่าพูดแต่เรื่องไม่ดี เอาเป็นว่าขอแชร์เรื่องดีๆ บ้างแล้วกัน ส่วนหนึ่งที่ยังทำให้รักคนในระบบอยู่คือ พี่ๆ young staff เป็น support system ที่ดีสุดๆ งานตัวเองก็เยอะ staff จบใหม่คือเดอะแบก รพ. มากๆ แต่ก็ยังใส่ใจน้องๆ จริงๆข้อความเหล่านี้ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราอยู่จนจบปีเลยไม่ได้เจ็บกับทวิตนี้มาก เพราะ 1. ถ้าศึกษาเรื่องของเราดีๆ ก่อนตัดสิน จะรู้ว่าเราจบหมอรังสิตมา ค่าเทอมจ่ายเองทุกบาททุกสตางค์ ค่าสอบ license ก็จ่ายเอง ฉะนั้นการลาออกของเราไม่มีผลอะไรกับงบรัฐฯ อยู่แล้ว 2. จบจากที่ไหนก็ไม่ควรเอาคำว่า “เสียสละ” มากดดันให้ต้องทำงานหนัก we’re not machines”