ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเพทาย จรกระโทก นอภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย นางรุจิรา จรกระโทก แม่บ้านมหาดไทยอำเภอศรีบุญเรือง คณะกรรมการพัฒนาสตรีศรีบุญเรือง พร้อม 7 ภาคีเครือข่ายนำเครื่องอุปโภคบริโภค วัสดุในการก่อสร้างเยี่ยมครอบครัวของน.ส.ศศิธร เข็ดคม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 9 บ้านลาดกรุงศรี ต.ศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง หลังทราบข่าวจากประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดหนองบัวลำภู ว่ามีแม่บังเกิดเกล้าเฝ้าเฝ้าเลี้ยงดูลูกชายที่เกิดอุบัติเหตุ แขนทั้งสองข้างพิการมือกำไม่ได้ และร่างกายไม่มีความรู้สึกตั้งแต่หน้าอกลงมาถึงปลายเท้า ฐานะครอบครัวยากจน
จากการลงพื้นที่พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังคามุงสังกะสี บริเวณร่มไม้ใกล้บ้านมี นายพลวัฒน์ จันทร์เชิด หรือ แบงค์ หนุ่มวัย 31 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุจากการกระโดดลงสระน้ำ แต่ศีรษะดันไปกระแทกกับพื้นปูนสระจนคอหักและสลบ เพื่อนๆ นำมาปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาล โดยอยู่ในการรักษาของแพทย์นานถึง 2 ปี น.ส.ศศิธร กล่าวว่า ตนเองมีบุตร 3 คนในขณะที่ที่กำลังดูแล นายพลวัฒน์ลูกชายคนโตที่พิการนอนอยู่บนโครงเตียงเหล็กแบบชั่วคราว
นายพลวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่โรงงานใน จ.สมุทรสาคร จากนั้นเพื่อนที่ทำงานร่วมกันได้ชวนกันไปเล่นน้ำในสระน้ำของหมู่บ้านที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งลักษณะของสระมีทั้งส่วนที่ลึกและตื้นตามแนวของสระ ตนได้กระโดดลงไปสระในลักษณะของการพุ่งลงไป นึกว่าสระจะมีความลึก ทำให้ศีรษะไปกระแทกกับพื้นปูนอย่างแรง จนทำให้คอหักและไม่รู้สึกตัว เพื่อนนำขึ้นมาปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล
แพทย์บอกกับแม่ตนเองกระดูกต้นคอหักและทับเส้นประสาทต้องผ่าตัด และทำให้เป็นอัมพาตท่อนล่างตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงขา รวมทั้งแขนทั้งสองข้างพิการไปด้วย โดยแขนข้างขวาพอยกได้เล็กน้อย ส่วนแขนข้างซ้ายไม่สามารถยกได้ และกำมือทั้งสองข้างไม่ได้เลย ทุกวันนี้แม่จะคอยดูแล ทำความสะอาดร่างกายให้ รวมทั้งต้องทำคอยดูแลตนทั้งเช้าและเย็นทุกวัน ทำให้แม่ไม่มีเวลาออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้เหมือนก่อน ส่วนพ่อยังพอออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้ แต่ก็มีคนจ้างน้อยมาก บางวันไม่มีใครจ้างก็ไม่มีรายได้เข้าบ้าน ทุกวันนี้ตนต้องใช้แพมเพิร์สวันละหลายชิ้น
น.ส.ศศิธร เปิดเผยว่า ลูกชายยังมีสิ่งที่ขาดคือแพมเพิส ทิชชู่ม้วนยาว ทิชชู่เปียก ถุงมือยาง และชุดทำแผล น้องไม่สามารถหยิบน้ำดื่มได้ ทานข้าวเองไม่ได้ จึงต้องคอยดูแลตลอดจนไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้ตามปกติ ตอนนี้เสาหลักของบ้านก็พิการทางมือออกไปทำงานไม่สะดวก แต่วันไหนมีแรงก็สู้ทนออกไปทำงานรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวให้มีชีวิตอยู่ต่อไปกันวัน ๆ ที่ลำบากก็คือเวลาพาน้องชายไปหาแพทย์ ถ้ารถของญาติไม่ว่างก็ต้องหาจ้างรถเพื่อนบ้าน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นนอกจากค่าน้ำมัน สำหรับผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของตนเพื่อลูกชาย สามารถให้ความช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้หรือสอบถามเพิ่มเติมได้กับ นางรุจิรา จรกระโทก แม่บ้านมหาดไทยเขตอำเภอศรีบุญเรือง