เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าในการหารือจัดตั้งรัฐบาลว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทนพรรคในการประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม ซึ่งหลังจาก 12.00 น. จะนัดหารือกัน คาดว่าใช้เวลาไม่นานมาก โดยจะนัดหมายกันเพื่อพูดคุยเบื้องต้นกับตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคหลัก

“คงต้องคุยกัน 2 พรรคก่อน วันนี้คุณพิธาจะโทรฯ หาหัวหน้าพรรคทั้งหมดด้วยตนเอง หวังว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถประชุมหารือร่วมกันได้ และแถลงกับสื่อมวลชน เพราะถือเป็นเป้าหมายที่พรรคก้าวไกลวางไว้เพื่อให้เกิดความชัดเจนแน่นอนทางการเมือง” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนข้อกำหนดและเงื่อนไขของนายพิธามอบหมายมานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นไปตามเงื่อนไขเดิมตามที่แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 15 พ.ค. นอกจากไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคาดว่า พรรคเพื่อไทย น่าจะตกลง โดยเนื้อหาจะพูดถึงวาระหลักในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะประกาศต่อสาธารณะ ว่ามีเรื่องใดบ้าง

นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเป็นหลักก่อน เพราะเป็นพรรคขนาดใหญ่ เมื่อเรื่องหลักสรุปกันได้แล้วค่อยชวนพรรคอื่นๆ ทั้งหมดมาพูดคุยกัน แต่เฉพาะหน้านายพิธาจะโทรฯ ประสานหัวหน้าพรรคทุกพรรคด้วยตนเอง โดยจะจำกัดวงหารืออยู่ที่ 6 พรรคเท่านั้นก่อน สำหรับการรวมเสียงที่ยังไม่เบ็ดเสร็จ ต้องหารือร่วมกันต่อไปว่าพรรคอื่นๆ เห็นว่าอย่างไร เบื้องต้นข้อเสนอของก้าวไกลเป็นแบบนี้ และเสียงของพรรคภูมิใจไทย ไม่มีความจำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการคุยกับพรรคภูมิใจไทย มาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีให้หรือ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเป็นการตัดสินใจของแต่ละพรรค แต่ทิศทางจะเป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลต้องฟังจากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ซึ่งหากเป็นไปตามกระแสสังคมที่เรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมโหวตนายกฯ ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะหลายภาคส่วนคาดหวังกันว่าจะทำให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลคาดหวังว่าจะให้การหารือแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ และการพูดคุยถึงตอนนี้ยังไม่มีปัญหา แต่ต้องมีการนัดหมายกันก่อนตามมารยาท จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นปัญหาอะไร แต่เดินหน้าคุยกันจะดีที่สุด

เมื่อถามว่ากังวลใจเรื่อง ส.ว.หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ส.ว.ไม่ได้เอกภาพ พรรคก้าวไกลจึงพร้อมจะหารือแลกเปลี่ยน ซึ่งจะมีการติดต่อเข้าไปพูดคุยแน่นอน เชื่อว่าการพูดคุยกันก่อนจะเป็นประโยชน์ที่สุด เพราะความกังวล ไม่สบายใจของ ส.ว. อาจจะเป็นการคิดอยู่ฝั่งเดียว หากได้พูดคุยกันแล้วก็คงจะคลายกังวลกัน

เมื่อถามถึงการเสนอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชัยธวัช กล่าวว่า การเสนอชื่อยังมีการพูดคุยกันอยู่ โดยมีการพูดกันว่า ในเมื่อพรรคก้าวไกลได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล แต่อาจมีความกังวลอยู่บ้างเรื่องความอาวุโส แต่คิดว่าในประวัติศาสตร์ก็เคยมีประธานสภาฯ ที่อายุน้อยมาแล้ว

นายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า เมื่อวานในการประชุมกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ยังไม่มีการประชุมกันเรื่องนี้ ส่วนที่มีกระแสว่า นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีชื่ออยู่ในโผด้วย เพราะเป็นฝ่ายกฎหมาย นายชัยธวัช คิดว่าคนวัยกลางคนก็มีความเหมาะสม เพราะมีความเที่ยงธรรมชัดเจน มีทักษะความสามารถที่เข้าใจทั้งระเบียบกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีการติดต่อซึ่งกันและกันหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่ายัง ก็ตามที่นายพิธาแถลงไว้ ยึดเอาพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันเป็นหลักมากกว่า เอาพรรคที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน ส่วนถ้าพูดคุยกันแล้วพรรคอื่นๆ เห็นอย่างไรก็อีกเรื่อง แต่จะถึงขั้นปิดประตูเลยหรือไม่ ตอนนี้ตนคิดว่าเสียงของพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เพียงพอ

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า พรรคเพื่อไทยอาจสนับสนุนคนอื่นเป็นนายกฯ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งคุยถึงตอนนั้น พรรคเพื่อไทยก็แสดงความชัดเจนว่าจะสนับสนุน และเคารพหลักการในระบอบประชาธิปไตย มีเวลาอีกตั้ง 2 เดือน เราคงไม่ได้อยู่เฉย ส่วนความมั่นใจในการรวมเสียงทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ให้ได้ 376 เสียง นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังมั่นใจว่ามี ส.ว.ไม่น้อยที่มีวุฒิภาวะและปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ไม่อยากเห็นทางตันหรือวิกฤติทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการสัมภาษณ์ นายชัยธวัชมีสีหน้าเคร่งเครียด ทันทีที่นายชัยธวัชให้สัมภาษณ์เสร็จ ได้รับสายโทรศัพท์ และพูดคุยเรื่องการนัดหมายพรรคต่างๆ ก่อนจะเดินทางออกจากที่ทำการพรรคทันที คาดว่าเป็นการพูดคุยถึงวงประชุมลับ