สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคิกาลี ประเทศรวันดา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่า รัฐบาลรวันดายังคงประเมินความเสียหาย ซึ่งเกิดขึ้น ขณะที่หลายครอบครัวฝังศพผู้เสียชีวิต จากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี หลังฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดดินถล่มทำลายบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ รวมถึงตัดขาดถนน โดยเฉพาะจังหวัดทางตะวันตกที่มีพรมแดนติดกับทะเลสาบคีวู ซึ่งมีรายงานความเสียหายหนักที่สุด
รัฐบาลรวันดากำลังเร่งส่งรถบรรทุกเสบียงฉุกเฉิน ไปยังพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งผู้อพยพต่างได้รับคำแนะนำให้พักอาศัยในเต็นท์ จนกว่าฝนจะหยุดตก ท่ามกลางความหวาดกลัวว่า จะเกิดดินถล่มและน้ำท่วมซ้ำ เนื่องจากแม่น้ำยังไหลเชี่ยวกราก และพื้นดินไม่มั่นคงแข็งแรง
“ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 130 คน และเราไม่ทราบจำนวนคนไร้บ้านทั้งหมดในตอนนี้ แต่พวกเรากำลังนับอย่างต่อเนื่อง” นายอแล็ง มูคูราลินดา รองโฆษกรัฐบาลรวันดา กล่าว “สิ่งที่เรารู้คือ บ้านเรือนมากกว่า 5,100 หลัง ถูกทำลาย และทุกหลังมีครอบครัวอาศัยอยู่ในนั้น”
มูคูราลินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากภัยพิบัติครั้งนี้ 77 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มีอาการบาดเจ็บสาหัส และรักษาตัวในโรงพยาบาล 36 คน
ด้านนายเอดูอาร์ เอ็นจิเรนเต นายกรัฐมนตรีของรวันดา ลงพื้นที่ประสบภัยรุนแรงที่สุด และเข้าร่วมการไว้ทุกข์กับครอบครัวที่เตรียมฝังศพญาติของพวกเขา พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้รอดชีวิต “เข้มแข็ง” และเสริมว่า รัฐบาลจะช่วยให้พวกเขาตั้งถิ่นฐานอย่างเหมาะสมอีกครั้ง รวมถึงช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และหวังว่าทุกคนจะใช้ชีวิตต่อไปได้.
เครดิตภาพ : AFP
