นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (เออีเอ็ม) ครั้งที่ 53 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ย.64  โดยการประชุมในครั้งนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะหารือความก้าวหน้าและความสำเร็จการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของอาเซียนในช่วงตลอดปีที่ผ่านมา รวมทั้งจะร่วมรับรองเอกสารสำคัญ ก่อนเสนอต่อผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนตุลาคมนี้

“ในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะร่วมรับรองและเห็นชอบเอกสารสำคัญหลายฉบับ เช่น กรอบการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน แผนงานในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นดิจิทัลของอาเซียน แผนงานในการดำเนินการตามความตกลงอีคอมเมิร์ซของอาเซียน เครื่องมือประเมินประสิทธิภาพของมาตรการที่มิใช่ภาษีของประเทศสมาชิก แผนงานภายใต้กรอบความตกลงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียน-สหรัฐอเมริกา และการขยายการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ ปี 2564-2565”

นอกจากนี้ แผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ปี 2564-2565 แผนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-รัสเซีย แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการของความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–ฮ่องกง แผนงานด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-สหภาพยุโรป ปี 2563-2564 เป็นต้น และในส่วนของการส่งเสริมความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในช่วงโควิด-19 รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะให้ความเห็นชอบการขยายบัญชีรายการสินค้าจำเป็น ที่จะไม่ใช้ข้อจำกัดการส่งออกระหว่างกันให้ครอบคลุมสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรบางรายการ

นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าว อาเซียนจะประชุมหารือกับรัฐมนตรีการค้าของประเทศนอกภูมิภาคอีก 12 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรได้เข้าร่วม โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ เช่น  แนวทางการเปิดเสรีสินค้าเพิ่มเติมและการเปิดเสรีและคุ้มครองการลงทุนภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน การเปิดเสรีสินค้าอ่อนไหวเพิ่มเติมตามที่ระบุในความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ การหาข้อสรุปเกี่ยวกับขอบเขตการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย เป็นต้น ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะมีการหารือร่วมกับภาคเอกชนอาเซียน หรือ สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน อีกด้วย