เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่สังคมตั้งคำถามและวิจารณ์แบบเรียนภาษาไทยพาที ถึงโภชนาการของเด็ก โดยมีเนื้อหาว่า กินไข่ต้มครึ่งซีก เหยาะน้ำปลา หรือข้าวเปล่าคลุกข้าวผัด ผักบุ้ง ทำให้ตัวละครในหนังสือ มีความสุข ถือเป็นการพอเพียง เห็นคุณค่าของชีวิต โดยเห็นว่าเป็นการมองโลกอย่างโรแมนติกมากเกินไป รวมถึงเกรงว่าเด็กจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อการพัฒนาการของเด็กๆ รวมทั้งเห็นว่าควรลดงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธที่ไม่จำเป็นและแพงออกไป เพื่อนำงบฯ มาซื้ออาหารให้เด็กๆ
โดย นพ.จิรรุจน์ ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า “ไข่ครึ่งซีก+ข้าวคลุกน้ำปลาอร่อยที่สุดในโลก” โภชนาการวัยเรียนแบบนี้ได้จริงๆ หรือ สิ่งสำคัญในอาหารที่เด็กควรได้ ไม่ใช่เรื่องของ “พลังงาน” หรือแค่อิ่มท้องอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญนั่นคือ “โปรตีน” ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง กล้ามเนื้อ และการทำงานของเอนไซม์ในระบบต่างๆ ของร่างกาย ยังมีเรื่องของวิตามิน แร่ธาตุที่สำคัญ ที่ไม่ควรขาดในเด็กอีก อาหาร จึงไม่ใช่เพียง “แค่อิ่มท้อง” หรือ “แค่อร่อยปาก” แต่ อาหารที่เหมาะสม จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต พัฒนาการทางสมอง ระบบภูมิคุ้มกัน ถ้าวิสัยทัศน์มีเพียง แค่ “อิ่มท้อง” “สุขใจ” แต่ไม่มองให้เห็นถึง สารอาหาร ที่จำเป็นต่อเด็กของเรา
นี่คือ เรื่องน่ากังวลมากๆ สำหรับ “อนาคตของชาติ” ภายใต้การกำหนดทิศทางการศึกษาจากคนบางกลุ่ม ที่ยังล้าหลังของบ้านเราแบบนี้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก จากแม่บ้านแคชเมียร์ และเพจ นพ.จิรรุจน์ ชมเชย