“เดลินิวส์ออนไลน์” ได้มีโอกาสสุดพิเศษในการสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ “มาโกโตะ ชินไค” ผู้กำกับระดับโลก เจ้าของผลงานชื่อดัง “Your Name : หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ” กับภาพยนตร์อนิเมะเรื่องล่าสุดของเขา “Suzume no Tojimari” หรือ “การผนึกประตูของซุซุเมะ” ที่กำลังเดินหน้ากวาดรายได้ถล่มทลายจากทั่วโลก

ถาม : อาจารย์คิดว่า ภาพยนตร์เรื่อง Suzume no Tojimari แตกต่างจากผลงานเรื่องอื่น ๆ ของอาจารย์อย่างไรบ้าง?

“ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด ถ้าเปรียบเทียบกับเรื่องก่อน ๆ ฉากแอ๊คชั่นจะเยอะมาก เป็นฉากที่มีทั้งนางเอก มีทั้งเก้าอี้ มีทั้งตัวหนอน ซึ่งถือได้ว่าฉากแอ๊คชั่นเยอะพอสมควร อีกหนึ่งความท้าทายในเรื่องนี้ ที่อาจจะมีเยอะกว่าเรื่องอื่นก็คือ เราได้นำเหตุการณ์จริงก็คือแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น เมื่อ 12 ปีที่แล้ว นำมาเป็นแกนหลักในเรื่องนี้ มันก็มีความท้าทายที่เราจะนำเรื่องราวจริงมาเล่าในอนิเมะ มันต้องทำอย่างไรบ้าง?”

ถาม : ถ้าเปรียบเทียบว่าหนังเรื่อง Suzume no Tojimari เป็นลูกของอาจารย์ ลูกคนนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง มีลักษณะนิสัยอย่างไร? และอาจารย์อยากให้เขาเติบโตไปในแบบไหน?

“เรื่อง ซุซุเมะ เนอะ การผนึกประตูของซุซุเมะ งั้นก็คงต้องเป็นลูกสาวแล้วละ อยากจะให้เป็นคนแบบไหน ก็คงจะคล้าย ๆ กับตัวนางเอก เป็นคนตรงไปตรงมา ต่อให้มีอันตราย มีอะไรที่เป็นสิ่งท้าทายต่อชีวิต ก็น่าจะเป็นคนที่แอ็คทีฟ พร้อมลุยพร้อมสู้ต่อสิ่งที่มาขวางกั้น”

ถาม : อาจารย์เคยพูดเอาไว้ตอนทำ Your Name ว่างานยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่พอใจในส่วนของเนื้อเรื่อง แล้วกับ Suzume no Tojimari งานชิ้นนี้เป็นอย่างไรบ้าง มันสมบูรณ์แบบหรือยัง?

“ผมจำไม่ได้ว่าผมเคยพูดสิ่งนั้นไปเหรอ (หัวเราะ) เอาจริง ๆ แล้วคำว่า ‘พอใจ’ คำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’ มันคงไม่มีหรอกในโลกนี้ ตอนนี้หนังเรื่องซุซุเมะ ก็ฉายที่ญี่ปุ่นมาแล้ว 6 เดือน ทุกครั้งที่ผมได้กลับไปดูเรื่องนี้ ผมก็ยังคงเห็นว่า จุดนี้น่าจะแก้ จุดนี้น่าจะดีกว่านี้ มันก็จะมีมาเรื่อย ๆ และก็คงจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะฉะนั้นถามว่าพอใจไหม? เพอร์เฟกต์หรือยัง? มันก็คงจะยังไม่เพอร์เฟกต์ และถ้าพูดแบบนี้ปุ๊บ มันก็ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ทุกเรื่องพอสร้างเสร็จแล้ว พอหันกลับไปดู มันก็คงไม่มีเรื่องไหนที่เพอร์เฟกต์ แต่เป็นเพราะว่ามันไม่เพอร์เฟกต์นี่แหละ ถึงทำให้เราอยากสร้างหนังไปเรื่อย ๆ เพราะถ้าเกิดเราสร้างหนังที่มันเพอร์เฟกต์ไปแล้ว เราอาจจะไม่อยากสร้างหนังเรื่องต่อไปอีกก็ได้ แต่ที่แน่ ๆ ที่ผมสามารถพูดได้เต็มปากก็คือ ผมคิดว่าซุซุเมะเนี่ย เป็นเรื่องที่ผมในตอนนี้เท่านั้นที่จะสามารถทำได้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมก็คงไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้ แต่ผมมั่นใจว่า ณ ตอนนี้ ถามถึงความเต็มที่ของผม ผมเต็มที่กับมันมาก และก็เพอร์เฟกต์ ณ เวลานี้”

ถาม : โควิด-19 สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ให้กับผู้คนทั่วโลก มันเปลี่ยนมุมมองในการทำหนังของอาจารย์ไปมากน้อยแค่ไหน?

“เอาจริง ๆ ตอนที่โควิดเกิดขึ้น อาจเป็นเพราะว่าผมเริ่มอายุเยอะแล้ว มันอาจจะไม่ได้มีอะไรที่สร้างความเปลี่ยนแปลงขนาดนั้น เอาจริง ๆ โควิดไม่ได้เปลี่ยนอะไรในตัวผมขนาดนั้น ถ้าถามว่าเหตุการณ์ไหนที่เปลี่ยนแปลงตัวผม มันน่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของญี่ปุ่นเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่ดึงชีวิตประจำวันของผมให้หายสาปสูญไปเลย ทำให้ผมรู้สึกเลยว่า คนเรามันสามารถถูกเอาชีวิตประจำวันที่ดูเรียบง่ายเนี่ย ถูกเอาไปได้ในห้วงเวลาเพียงแป๊บเดียวจริง ๆ พอโควิดเกิดขึ้น มันก็เลยไม่ได้กระทบตัวผมมากนัก เพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ มันเป็นความช็อกครั้งใหญ่ของผมไปแล้ว แต่โควิดมันก็เป็นการย้ำว่า เหตุการณ์ที่จะมาพรากสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเราไป มันเกิดขึ้นได้จริง ๆ”

ถาม : อาจารย์เคยบอกว่าสามารถทำหนังใหม่ฉายได้ทุก ๆ 3 ปี แสดงว่าในปี 2025 เราจะได้ชมหนังเรื่องใหม่ของอาจารย์ใช่ไหม อาจารย์ได้เริ่มโปรเจกต์หนังเรื่องใหม่หรือยัง มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร?

“ความจริงแล้วผมอาจจะพูดไปเหมือนกับว่าทุก 3 ปี แต่ความจริงแล้ว ก็ไม่ได้วางแผนขนาดนั้น เพียงแค่ผมหมายความว่า พยายามเต็มที่แล้ว พยายามให้ดีที่สุดเพื่อให้หนังดี ๆ เกิดขึ้นมาได้ 1 เรื่อง เต็มที่คือต้องใช้เวลา 3 ปี น่าจะเป็นอย่างงั้นมากกว่า 2025 เร็วไปหรือเปล่า? บอกเลยว่าตอนทำหนังเรื่องนี้ ใช้เวลาประมาณ 12-15 ชั่วโมงต่อวัน พูดตรง ๆ คือไม่มีเวลาพักผ่อน ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 10 เดือนสุดท้าย ตารางงานอัดแน่นมาก อายุก็เริ่มเยอะขึ้น แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าผมคงจะทำงานแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ทุกครั้งที่ทำงานก็จะนั่งคิดว่า เราต้องหาวิธีทำงานที่ดีกว่านี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถรักษาระยะเวลาของ 3 ปีนี้ไปได้อีกนานขนาดไหน”

ถาม : นี่เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของหนังเรื่องนี้ เพราะหนังจะเข้าฉายทั่วโลก (ฝรั่งเศส, มอลตา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, บราซิล, เยอรมนี เม็กซิโก, ออสเตรีย, เบลเยียม, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ยิบรอลตาร์, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, สหราชอาณาจักร และไทย) อาจารย์คาดหวังว่ามันจะประสบความสำเร็จแบบ Your Name หรือไม่?

“ถ้าพูดให้เคลียร์ ๆ หน้าที่ของผมคือหน้าที่การทำหนัง หน้าที่สื่อสารความคิด ความรู้สึกให้เต็มที่ เพื่อให้คนดูได้รับความรู้สึกนั้น และได้รับความรู้สึกดี ๆ กลับไปหลังชมภาพยนตร์ของผม แต่ถ้าพูดถึงการขาย พูดถึงยอดขาย อันนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโปรดิวเซอร์ เพราะฉะนั้นจะขายดีไม่ดี มันก็ต้องแล้วแต่โปรดิวเซอร์ แต่ที่แน่ ๆ ถ้าด้วยตัวเลข ณ ปัจจุบัน ในการถูกฉายในต่างประเทศ ตัวเลขในการขายมันเกิน Your Name ไปเรียบร้อยแล้ว นี่ยังไม่ได้ฉายที่อเมริกา เพราะฉะนั้นแสดงว่า มันอาจจะสามารถโตได้มากกว่านี้ ดังนั้น ถ้าพูดถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นตอนนี้ ผู้กำกับดีใจแล้ว”

ถาม : จากผลงานทั้งหมดของอาจารย์ที่ผ่านมา เรื่องไหนที่อาจารย์ชื่นชอบมากที่สุด เพราะอะไร?

“ก็ต้องบอกว่าเรื่องล่าสุดที่เพิ่งทำ เป็นเรื่องที่ตัวเองทุ่มเท และมันกำลังสดใหม่อยู่ ถามว่ารักเรื่องไหนก็คงต้องเรื่องนี้ เพราะเราเพิ่งทุ่มเทมา แต่แน่นอนว่า ก็ต้องมีเรื่องที่ประทับใจ สำหรับผมก็คงจะเป็นเรื่อง ‘Hoshi no Koe’ (Voices of a Distant Star) หรือ ‘เสียงเพรียกจากดวงดาว’ ที่ฉาย 20 ปีที่แล้ว เป็นหนังไซไฟแบบจ๋า ๆ เลย ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้ฉายในโรงหนังที่เล็กมาก ๆ คนดู 50 คนเอง แต่ความรู้สึกของการที่หนังเรื่องนั้นฉายจบแล้วทุกคนปรบมือให้ มันตราตรึงใจและประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้”

ถาม : อาจารย์อยากให้คนดูได้รับสารอะไรบ้าง? จากการชม Suzume no Tojimari

“ผมอาจจะไม่มีคำพูดสวยหรู อาจจะเป็นคำพูดที่เรียบมากเลย แต่อยากให้ได้ ‘ความหวัง’ กลับไป ที่แน่ ๆ ก็คือผมอาจจะพยายามสร้างหนังที่ดีได้ แต่ผมไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าคนดูจะได้อะไรกลับไป ได้ความรู้สึกแบบไหน เพราะว่าจิตใจของคนเรา โครงสร้างก็ไม่เหมือนกันละ พอคนที่โครงสร้างจิตใจไม่เหมือนกันมาดูหนังเรื่องเดียวกัน สิ่งที่คนจะได้จากหนังเรื่องเดียวกันเนี่ย แต่ละคนอาจจะได้คนละส่วนกันไป ในทางกลับกันผมเองอยากจะถามคนดูด้วยซ้ำว่า คุณดูหนังผมแล้ว คุณได้อะไรกลับไปบ้าง เพื่อที่ผมจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า การทำหนังของผม มันให้อะไรกับคนดูบ้าง เพื่อที่จะต่อยอดสร้างหนังดี ๆ ต่อไปในอนาคต”

—————————

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โทโฮคุ ซึ่งถูกนำมาใส่ไว้ในภาพยนตร์ “Suzume no Tojimari”

ช่วงบ่ายของวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใต้ทะเล วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.0 ริคเตอร์ กินเวลานานราว 6 นาที โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรโอชิกะ ในภูมิภาคโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น ลึกลงไปใต้พื้นดิน 32 กิโลเมตร มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลังจากนั้นอีกมากกว่าหนึ่งพันครั้ง ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 40 เมตรครึ่ง สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของหมู่เกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ถือเป็นแผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 140 ปี ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิความเร็วถึง 500 ไมล์ต่อชั่วโมง พัดอาคารบ้านเรือน รถยนต์ กวาดเอาพืชผลการเกษตรที่ปลูกอยู่ตามแนวชายฝั่งราบเป็นหน้ากลอง ราวกับไม่เคยมีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ มาก่อน แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น นอกจากจะสร้างความเสียหายมหาศาลทั้งทรัพย์สินและชีวิตของผู้คนในเขตโทโฮคุ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นแล้ว แรงสั่นสะเทือนครั้งนั้นสามารถรับรู้ได้ถึงกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน พร้อมทั้งมีการส่งสัญญาณเตือนภัยสึนามิไปยังไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กวม เกาะฮาวาย ชายฝั่งด้านตะวันตกของอเมริกา และแคนาดา ด้วย

นอกจากนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวยังทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ 1 และ 2 ถูกคลื่นสึนามิถล่มจนทำลายระบบกำเนิดไฟฟ้าดีเซลสำรอง ส่งผลให้เกิดปัญหาในการลดความร้อน ทำให้เกิดการระเบิด 2 ครั้งที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ 1 ส่งผลให้กัมมันตภาพรังสีในบริเวณรอบข้างมีระดับสูงขึ้น ทำให้ต้องรีบอพยพประชาชนกว่า 2 แสนคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

แผ่นดินไหวครั้งนั้นได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 15,890 คน สูญหาย 2,537 คน และได้รับบาดเจ็บ 6,157 คน รวมทั้งทำให้ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น

ประวัติโดยย่อของอาจารย์มาโกโตะ ชินไค :

“มาโกโตะ ชินไค” (Shinkai Makoto) หรือชื่อตามใบเกิด “มาโคโตะ นีตสึ” (Niitsu Makoto) เป็นผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมะชื่อก้องโลกชาวญี่ปุ่น เคยเป็นกราฟิกดีไซน์ ก่อนจะมาเป็นผู้กำกับ จากผลงานอนิเมะที่โด่งดังของเขา ทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น “ฮายาโอะ มิยาซากิ” คนใหม่แห่งวงการอนิเมะ

อาจารย์มาโกโตะ เกิดที่ตำบลโคมิ จังหวัดนางาโนะ จบด้านวรรณกรรมญี่ปุ่น ที่มหาวิทยาลัยชูโอ เขาเป็นสมาชิกชมรมยุวชนวรรณกรรม สมัยที่เรียนระดับมัธยมปลาย อาจารย์หลงใหลในมังงะ อนิเมะ และนิยายไลท์โนเวล ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้อาจารย์ในการมาสร้างหนังอนิเมะ โดยเฉพาะภาพยนตร์อนิเมะที่อาจารย์ชื่นชอบมากที่สุด คือ “ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา” (Laputa: Castle in the Sky) ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ

ผลงาน :

ภาพยนตร์

  • The Place Promised in Our Early Days (2004)
  • 5 Centimeters Per Second (2007)
  • Children Who Chase Lost Voices (2011)
  • The Garden of Words (2013)
  • Your Name (2016)
  • Weathering With You (2019)
  • Suzume no Tojimari (2022)

หนังสั้น

  • Other Worlds (1999)
  • She and Her Cat: Their Standing Points (1999)
  • Voices of a Distant Star (2002)
  • Hiromi Iwasaki: Egao (2003)
  • Someone’s Gaze (2013)
  • Cross Road (2014)

วุฒิ พิศาลจำเริญ