เมื่อวันที่ 16 เม.ย. เกิดสถานการณ์เหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย – เมียนมา ด้านอ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีชาวเมียนมาหอบลูกจูงหลานทั้งหญิงและชาย อพยพหนีตายนั่งเรือหางยาวข้ามฝาก จากฝั่งหมู่บ้านไซปู ต.หมาราง อ.เขม่าจี จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา ข้ามมายังท่าเทียบเรือบ้านหัวถนน ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง ร่วม 300 คน อย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงค่ำ

ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้สั่งกำลังทหารและชุดเฝ้าตรวจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4106, พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอกระบุรี เข้าทำการตรึงกำลังและดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนฝั่งไทยทันที นายประภาส ขุนพิทักษ์ นายอำเภอกระบุรี ร่วมกับ นายจุลวิศิษฎ์ ลิ่มศิลา นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำ นายวิรสิงห์ คชสิงห์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้ช่วยกันจัดตั้งจุดแรกรับตัวพี่น้องชาวเมียนมา บริเวณท่าเรือ บ้านหัวถนน โดยมีการยกเต็นท์ มาตั้งเพื่อให้ผู้อพยพอยู่รวมตัวกัน โดยพี่น้องชาวอำเภอกระบุรีและชาวระนองที่ทราบข่าวต่างหุงหาอาหารจัดข้าวกล่องทยอยมาช่วยเหลือ และมีการรับมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อเป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม

ทั้งนี้เหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นหมู่บ้านไซปู เบื้องต้นเมื่อ 15.00 น.ที่ผ่านมา ได้มีกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ประมาณ 10 นาย ขับรถขี่รถจักรยานยนต์ 5 คัน เข้าไปในหมู่บ้านก่อนตรงไปใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายจอแว หัวหน้าอาสาสมัครทหารบ้าน และนายมิ อ่าว อู ผู้ช่วยอาสาสมัครทหารบ้าน เสียชีวิตทันที 2 ราย จากนั้นได้ทำการเผาบ้านของนายจอแว วอดไปทั้งหลัง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนที่ไปช่วยทหารเมียนมาจึงพร้อมกันหลบหนีออกจากหมู่บ้านทันที ชาวบ้านในหมู่บ้านไซปูซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่ได้ตกใจกลัวหวั่นจะมีการเข้ามาก่อเหตุซ้ำหรือการตอบโต้กันจึงทำการลงเรือหลบหนีข้ามแม่น้ำกระบุรีมายังฝั่งไทย

โดยหน่วย ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี ได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์คลี่คลายจะเร่งทำความเข้าใจ เเละส่งตัวพี่น้องชาวเมียนมากลับโดยความสมัครใจต่อไป.