เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. 66 เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้วินิจฉัย กรณีมีบางพรรคการเมืองเสนอนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชนทั้งประเทศที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปนั้น จะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ และเป็นการหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามข้อห้ามใน ม.73 (1) และ (5) แห่ง พรป.เลือกตั้ง ส.ส. 2561 หรือไม่ ?

ทั้งนี้มีข้อสงสัยว่า… ทำไมไม่บอกความจริงทั้งหมดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทราบว่า…

-แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่ประชาชนอาจได้รับจริงเพียง 8,500 บาท เพราะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายเสียก่อน 15% หรือ 1,500 บาท หรือไม่ ? (พ.ร.ก.รัษฎากร ฉ.15 2561)

-ผู้มีรายได้พึงประเมินตามฐานภาษีของกรมสรรพากรกว่า 11 ล้านคน จะมีภาระต้องนำเงินได้จากเงินดิจิทัลดังกล่าวและภาษีหัก ณ ที่จ่ายดังกล่าวไปรายงานแจ้งการเสียภาษีประจำปีต่อกรรมสรรพากรด้วย หากไม่แจ้งมีโทษปรับหลายเท่าตามกฎหมาย หรือไม่?

-พ่อค้า แม่ค้า ร้านขายของต่างๆ ที่รับเงินดิจิทัลดังกล่าว จะต้องรายงานภาษีต่อกรมสรรพากรด้วยทุกบาทดิจิทัล เพื่อคำนวณเก็บภาษีจากร้านค้านั้นๆ ต่อไปนี้ร้านค้าทุกร้านที่รับเงินดิจิทัล สรรพากรจะรู้รายได้ของร้านดังกล่าวเพื่อเก็บภาษีได้ตลอดไป แต่ถ้าร้านโชห่วยไม่รับ ก็เสร็จร้านสะดวกซื้อของกลุ่มนายทุนหมด จะถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนหรือไม่?

-การใช้จ่ายเงินดิจิทัล ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีอัตราโทษปรับทางแพ่งเป็นแสน เป็นล้าน และบางกรณีมีโทษทางอาญาถูกจำคุกด้วยหรือไม่? (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล 2561)
ฯลฯ

แบบนี้จะเรียกว่าโชคดี หรือ ทุกขลาภดีครับ
จาก ศรีสุวรรณ จรรยา