เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าเกิดเหตุยิงปะทะสุดระทึกนานกว่าครึ่งวัน เหตุชายวัย 40 ปี คลุ้มคลั่งใช้ปืนไทยประดิษฐ์ เปิดฉากยิงต่อสู้ และขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเข้าระงับเหตุมีอาการคลั่งขู่จะเผาบ้าน ในพื้นที่ สภ.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยเบื้องมีรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากการถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณหน้าผาก ก่อนถูกนำตัวส่งที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์อย่างเร่งด่วน ขณะที่ชายคนดังกล่าวยังซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน โดยพยายามยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ ก่อนกระสุนอีก 1 นัด จะพุ่งเข้าใส่บริเวณหน้าขาขวาของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 นัด โชคดีที่กระสุนนัดดังกล่าวถูกแมกกาซีนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดยอมมอบตัวแล้ว หลังใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 7 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แซงบาดาล รับแจ้งเหตุชายดังกล่าวเป็นชาวบ้านหนองบัวสามัคคี มีอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด และขู่จะเผาบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แซงบาลดาล 3 นาย นำโดย ร.ต.ต.วีระยุทธ จิตพงษ์ รอง สว. (ป) สภ.แซงบาดาล เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จึงเดินทางไประงับเหตุ ก่อนที่จะถูกยิงสวนออกมากระสุนพุ่งเข้าหน้าผากบาดเจ็บสาหัส จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนประสานกู้ชีพ กู้ภัย ช่วยเหลือ ร.ต.ต.วีระยุทธ ส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน

จากนั้น พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการทางวิทยุ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.กาฬสินธุ์ (S.W.A.T.) ลงพื้นที่สนับสนุนตำรวจท้องที่ รวมกว่า 50 นาย โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลแซงบาดาล เข้าประชิดพร้อมฉีดน้ำเข้าบ้านเพื่อให้ผู้ต้องหาอารมณ์เย็นและจะได้ยอมมอบตัว นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์จากสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 4 จำนวน 1 ลำบินวนเวียนเหนือน่านฟ้า บริเวณบ้านที่ผู้ต้องหาซุ่มตัวอยู่เพื่อกดดัน กระทั่งมีการยิงปืนออกมาอีกครั้งถูกขาเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่โชคดีกระสุนถูกแม็กกาซีนปืนจึงไม่บาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังคงใช้โทรโข่งพูดเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธและมอบตัวอย่างต่อเนื่องแต่ไม่เป็นผล กระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ผู้ก่อเหตุจึงยอมออกมามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ควบคุมตัวไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับ ร.ต.ต.วีระยุทธ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ถูกยิง และนำส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พบมีบาดแผลที่บริเวณหน้าผาก ล่าสุดได้รับการรักษา อาการพ้นขีดอันตราย แต่แพทย์ยังเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด