นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนดำเนินงานพัฒนายานพาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานไฟฟ้าเข้ามาใช้กับตัวเรือและท่าเรือ ให้เกิดเป็นท่าเรืออัจฉริยะ หรือ Smart Pier สำหรับในปี 64 กรมเจ้าท่าได้พัฒนามาตรฐานและข้อกำหนดเกี่ยวกับเรือขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า-ออกข้อกำหนดมาตรฐานเรือพลังงานไฟฟ้า พัฒนาข้อกำหนดสำหรับเรือไฟฟ้าสำหรับเรือเพลาใบจักรยาว อยู่ระหว่างเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาการศึกษาและวิจัยนวัตกรรมเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าร่วมกับคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา โครงการจัดหาระบบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ  

ปัจจุบันได้ส่งเสริมให้นำเรือพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบคมนาคมขนส่งทางน้ำ รวม 5 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา กรมเจ้าท่าร่วมกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) พัฒนาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาโดยใช้เรือขนาดความยาว 23.97 เมตร รองรับคนโดยสารได้จำนวน 250 คน ใช้แบตเตอรี่ขนาด 768 Kw.hr สามารถทำความเร็วได้ 16 นอต (29.6 กม./ชม.) ซึ่งการใช้พลังงานไฟฟ้าสามารถทดแทนการใช้น้ำมันได้จำนวน 262,800 ลิตร/ปี 

2.เส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม กรมเจ้าท่าร่วมกับบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด พัฒนาเรือพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ในการเดินเรือในเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม โดยตลอดเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษมมีระยะทาง 5 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 4 เขต ได้แก่ เขตพระนคร เขตดุสิต เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตปทุมวัน ใช้เวลาเดินทางตลอดสายเพียง 20 นาที โดยใช้เรือจำนวน 7 ลำ ขนาดความยาว 9.90 เมตร รองรับคนโดยสารได้ 30 คน ใช้แบตเตอรี่ขนาด 42 Kw.hr.สามารถทำความเร็วได้ 7 นอต (12.96 กม./ชม.) ซึ่งการใช้พลังงานไฟฟ้าสามารถทดแทนการใช้น้ำมันได้จำนวน 40,420.20 ลิตร/ปี 

3.เส้นทางคลองแสนแสบ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ได้ต่อเรือเหล็กจำนวน 5 ลำ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (ยังมีข้อจำกัดในเรื่องประสิทธิภาพของแบตเตอรี่) ขณะที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ต่อเรือไฟฟ้า จำนวน 12 ลำ เพื่อจะนำมาให้บริการเดินเรือในเส้นทางคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย (วัดศรีบุญเรือง-มีนบุรี) ระยะทาง 11.5 กม. โดยเรือรองรับคนโดยสารได้ 40 คน โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ร่วมกับโซลาร์เซล คาดว่าเปิดให้บริการได้ภายในเดือน ก.ย.นี้ 

4.เส้นทางคลองดำเนินสะดวก กรมเจ้าท่าได้พัฒนาเรือพลังงานไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเส้นทางคลองดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งมีเรือจำนวน 2 ลำ ติดตั้งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าทดแทนเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันสำหรับเรือเพลาใบจักรยาว (หางยาว) ปัจจุบันให้บริการเดินเรือท่องเที่ยวคลองดำเนินสะดวกเรียบร้อยแล้ว พร้อมนี้ได้ร่วมกับบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด พัฒนาเรือเพลาใบจักรยาววัสดุตัวเรือทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า จำนวน 1 ลำ ซึ่งได้ต่อเรือและทดสอบเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างส่งมอบเรือให้กรมเจ้าท่า 

และ 5.เส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวทางทะเล กรมเจ้าท่า ร่วมกับ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด พัฒนาเรือพลังงานไฟฟ้า Banpu NEXT e-Ferry “เรือท่องเที่ยวไฟฟ้าทางทะเล” จำนวน 1 ลำ ปัจจุบันเรือได้ย้ายจากอ่าวพังงา มาให้บริการใน จ.นครศรีธรรมราช (ท่าเรือสิชลซีฟู้ด) ออกให้บริการล่องเรือรับประทานอาหาร วันละ 1 เที่ยว ระหว่างท่าเรือสิชล-เขาพลายดำ ช่วงเวลา 14.00-17.00 น  ตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.63 โดยมีผู้ใช้บริการประมาณ 40-50 คน/วัน (หยุดการให้บริการชั่วคราวเนื่องจากโควิด-19) 

ทั้งนี้ โครงการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าถือเป็นส่วนสำคัญของความร่วมมือระหว่างกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานภาคเอกชนดำเนินการตามแผนพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งเล็งเห็นความสำคัญในการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ให้สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศ ลดปัญหาจราจรทางบก ลดมลพิษ เพื่อความสะดวกสบายของประชาชน ด้วยการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบทั้งระบบ รถ-ราง-เรือ ให้เกิดการขับเคลื่อน สนับสนุน ส่งเสริมนำเรือพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบการคมนาคมขนส่งทางน้ำอย่างเต็มรูปแบบและเป็นรูปธรรมต่อไป