นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กยศ.กำลังเร่งปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 เพื่อเพิ่มขอบเขตในการบริหาร รวมถึงให้อำนาจกองทุนฯ เข้าไปช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี หรือศาลมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว หรืออยู่ในระหว่างการบังคับคดี ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.1 ล้านราย ให้สามารถเข้าร่วมการแก้ไขหนี้ แปลงหนี้ เพื่อกลับมาผ่อนชำระได้อีกครั้ง
“ที่ผ่านมา กยศ.ได้ออกมาตรการบรรเทาความช่วยลูกหนี้ช่วงโควิดมาแล้ว แต่จะเป็นการช่วยลูกหนี้กลุ่มที่ยังไม่ถูกฟ้องดำเนินคดีเป็นหลัก เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ ให้ขยายการชำระได้นาน 30 ปี เงินงวดผ่อนชำระลดลง หรือการลดหักบัญชีเงินเดือนเหลือเดือนละ 10 บาท เป็นต้น แต่ในส่วนลูกหนี้ที่ถูกฟ้อง หรือบังคับคดีไปแล้ว กยศ.ยังไม่สามารถช่วยเหลือแก้หนี้ให้ได้ เนื่องจากยังติดขัดข้อกฎหมาย ที่จะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาล”
ดังนั้น การแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนฯ ครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว โดยปัจจุบันอยู่ขั้นตอนเปิดรับฟังจากผู้มีส่วนได้เสีย ลูกหนี้ นายจ้าง ให้มาแสดงความเห็นต่อร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ได้จนถึง 31 ส.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะรวบรวมความเห็นมาปรับปรุงร่างฯ ก่อนเสนอให้ ครม.พิจารณา และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาแก้ไขกฎหมายในสภาต่อไป โดยตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการเสร็จ และสามารถช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีได้ในปีหน้า
สำหรับการปรับปรุงพ.ร.บ.กองทุนฯ ครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญหลายส่วน เช่น มาตรา 44 ที่เปิดให้ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี หรือศาลมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว หรืออยู่ในระหว่างการบังคับคดี สามารถเข้ารับการช่วยเหลือในการลดหย่อนหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ แปลงหนี้ได้ รวมถึงประเด็นอื่น ๆ อย่างการปรับลดเบี้ยปรับเงินเพิ่มให้นายจ้างที่ไม่ได้หักเงินเดือนแก่ลูกจ้างเพื่อนำส่ง กยศ. การเพิ่มอำนาจให้กองทุนฯ พิจารณาปรับเกณฑ์ผ่อนชำระเงินงวด เป็นรายปี รายไตรมาส หรือรายเดือนได้ตามความเหมาะสม การปรับปรุงเบี้ยปรับสำหรับผู้ผิดนัดชำระ หรือการลดเพดานดอกเบี้ย เป็นต้น
นายชัยณรงค์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กำลังแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ กยศ.ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระแล้ว เช่น ให้ชะลอการฟ้องคดีจนถึง 31 มี.ค.65 ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความในปีนี้ พร้อมกับจะงดการขายทอดตลาด กรณีที่ถูกบังคับคดีจนถึงสิ้นปีนี้ กยศ. ด้วย นอกจากนี้กยศ.ยังออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ได้แก่ การลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ที่ไม่เคยผิดนัด การลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ที่ชำระหนี้ปิดบัญชี การลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมด การลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ที่ไม่เคยผิดนัดและชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว และการลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% กรณีไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ซึ่งจะมีผลถึง 31 ธ.ค.นี้