ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรและลดผลกระทบที่มีผลสิ่งแวดล้อมต่อสุขภาวะของสาธารณชนรวมทั้งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถรีไซเคิลทรัพยากรต่าง ๆ ให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้ในต่างประเทศได้มีการฟันธงว่ามีเทคโนโลยี 7 เรื่อง ที่กำลังมีความก้าวหน้าและน่าจะนำไปสู่การเปลี่ยน แปลงขนาดใหญ่ในโลกนี้

ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD)

7 เทคโนโลยีสีเขียว ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นประกอบด้วย

1. เทคโนโลยีการจัดการนํ้าเสีย : ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยชื่อดังในสหรัฐอเมริกาได้คิดค้นวิจัย การจัดการนํ้าเสียรูปแบบใหม่ ที่บำบัดนํ้าเสียพร้อม กับการผลิตไฟฟ้าได้ด้วย ซึ่งเทคโนโลยีนี้ต้องใช้กระบวนการแยกไฮโดรเจน-ออกซิเจน  จากนํ้าเสีย (มีเทน) พร้อม ๆ กับดึงออกซิเจนจากอากาศแล้วส่งให้ Fuel Cells หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการขยายผลจะทำให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าที่ใช้เองก็จะเปลี่ยนแปลงโลกของวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมที่ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีตกตะกอนใน SludgeTank

2. เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากคลื่นทะเล : พลังงานจากท้องทะเลทั้งในรูปของนํ้าขึ้น-นํ้าลง การเคลื่อนตัวของคลื่น หรือ คลื่นกระทบฝั่ง ถือเป็นแหล่งพลังงานมหาศาลที่มนุษย์ยังไม่สามารถดึงศักยภาพมาใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าได้เลย หากทำได้จริงพลังงานจากท้องทะเลนั้น จะสามารถเปลี่ยนคลื่นเป็นพลังงานสะอาดและเปลี่ยนให้ท้องทะเลเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้าต่อไป

3. เทคโนโลยีการเพาะปลูกและฟาร์มในเมืองหรือเกษตรแนวตั้ง : จะเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลก โดยฉพาะในเมืองใหญ่ เราลองคิดดูนะครับว่าหากอีกหน่อยคอนโด บ้าน ทาวน์เฮาส์ ที่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างจำกัดสามารถปลูกผักผลไม้ในระบบปิด โดยมีระบบการจัดการแบบปิด ควบคุมการใช้นํ้า ใส่ปุ๋ย การควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิและความชื้น จะทำให้เรานั้นใช้นํ้าและที่ดินน้อยลง อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพราะไม่ต้องขนส่งพืชผลทางการเกษตรเป็นระยะทางไกล…ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว

4. เทคโนโลยีเก็บและกรองนํ้าและการทำนํ้าให้บริสุทธิ์ : เทคโนโลยีนี้จะคล้าย ๆ กับเทคโนโลยีในข้อ 1 ที่ใช้ในการจัดการนํ้าเสีย แต่ยกระดับขึ้นมาอีกหน่อยก็คือการพัฒนาเทคโนโลยีการบำบัดนํ้าเสียนำมาใช้ใหม่ให้สามารถกรองนํ้า และ purify นํ้า คือกำจัดสิ่งเจือปนต่าง ๆ ทำให้นํ้าบริสุทธิ์ พอที่จะใช้เป็นนํ้าดื่มหรือนำมาบริโภคได้เลย เรื่องนี้รวมถึงเทคนิคการเก็บและนำนํ้าฝนมาใช้ในระดับครัวเรือนด้วยนะครับ

5.เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า : ผมว่ายุคนี้ถือเป็นยุคของรถไฟฟ้าจริง ๆ ประเด็นการพัฒนาหลักจะเน้นเรื่องแบตเตอรี่เพราะถือว่าเป็นหัวใจหรือกลไกที่สำคัญของรถ EV เพราะถ้ามีการผลักดันหรือส่งเสริมให้มีการพัฒนาต้นทุนให้ตํ่าลง และสามารถรีไซเคิลนำกลับมาใช้ใหม่ ผมเชื่อได้เลยว่านอกจากลดก๊าซเรือนกระจกได้แล้วยังประหยัดเงิน หรือไม่ต้องง้อนํ้ามันเลยก็ได้

6. เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ : เซลล์แสงอาทิตย์ ที่ถึงจุดหนึ่งในอนาคตคงจะมีการติดตั้งในทุกหลังคาเรือนและที่กำลังมีการพัฒนาอยู่ตอนนี้เห็นจะเป็นเรื่องการออกแบบเพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดเวลา (ใช่ครับเรากำลังพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผลิตไฟฟ้าตอนกลางคืนได้) แม้แต่ช่วงเวลาที่ไม่มีแสงแดดและหากทำได้จริง…โลกพลังงานก็น่าจะเปลี่ยนโฉมเช่นกันครับ

7. เทคโนโลยี Green Architecture : เป็นเทคโนโลยีการก่อสร้าง/การออกแบบอาคาร ด้วยวัสดุรีไซเคิล ใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบ Knock-down ที่สามารถถอดประกอบและนำมาสร้างใหม่ในที่อื่นได้และผมคิดว่าเทรนด์นี้จะเป็นกระแสในอนาคตแน่นอน

โดยสรุปเทคโนโลยีเขียวทั้ง 7 ชนิดนี้คงยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาและวิจัยอย่างต่อเนื่องแต่ท่านผู้อ่านคงจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่าหากเราทุ่มเทกำลังสมองที่จะทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นรูปธรรมโดยเร็วภาวะวิกฤติโลกร้อนจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็จะลดลง…โลกของเราก็จะอยู่ยั่งยืนต่อไปอีกนานแสนนานครับ.