ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ 2 นัด ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) คืนวันที่ 25 มี.ค. เวลา 01.00 น. พบ ซีเรีย และคืนวันที่ 28 มี.ค. เวลา 01.00 น. พบ ยูเออี ทั้ง 2 นัดถ่ายทอดสด AIS PLAY และ ไทยรัฐทีวี โดยหลังจากซ้อมวันแรกเมื่อ 20 มี.ค. ล่าสุด วันที่ 21 มี.ค. ได้ 3 นักเตะ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน, “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ นิโคลัส มิคเคลสัน เข้ามาเสริมทัพ ทำให้มีครบ 24 คน แล้ว หลังจาก เอกนิษฐ์ ปัญญา ถอนตัวไป โดยเมื่อ 21 มี.ค. ยังปักหลักซ้อมที่สนาม ยามาโอกะ ฮานาซากะ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/03/337086491_1274582266829521_733946678761910322_n.jpg)
ด้าน มาโน โพลกิง หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ชุดใหญ่ กล่าวว่า สภาพร่างกายนักเตะน่าพอใจอย่างมาก ทุกคนพร้อมลงสนาม รวมถึงตัวผู้เล่นที่มาจากต่างประเทศอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ หรือ นิโคลัส มิคเคลสัน จะดูกันไปทีละนัด ทั้ง 2 ทีม ถือว่าต่างไปจากตอนเจอกันในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 44 เมื่อปี 2559 ซึ่งเสมอกัน 2-2 ก่อนไทยชนะจุดโทษ 7-6 จากการที่ ลูอิส เวียกัส ได้เก็บข้อมูลมาแล้ว มีผู้เล่นที่ดีหลายคน บางคนได้เล่นในลีกอย่างยูเออีหรือกาตาร์ ขณะเดียวกันโค้ช เอคตอร์ คูเปร์ ที่มีประสบการณ์ในการคุมทีมทั้งอินเตอร์ มิลาน และบาเลนเซีย ดังนั้นมันจะเป็นเกมที่ดีของทีมชาติไทย
มาโน กล่าวด้วยว่า ยูเออี แข็งแกร่งกว่า ซีเรีย และยังได้เปรียบเพราะเล่นในบ้าน แต่ทีมชาติไทยก็อยากชนะ เพื่อจะได้ดูว่าสามารถต่อกรกับทีมระดับนี้ได้หรือไม่ แน่นอนว่าอยากชนะทั้ง 2 เกม
“เราจะได้ซ้อมอีก 1-2 ครั้งก่อนเดินทางในวันที่ 23 มี.ค. นี้ แล้วค่อยดูตัวผู้เล่นอีกครั้งว่า ใครพร้อมลงเล่นบ้างในนัดแรกกับซีเรีย ส่วนเกมกับยูเออี ต้องดูสภาพของผู้เล่นเช่นกันว่า มีคนไหนต้องพักหรือไม่ รวมถึงดูฟอร์มจากนัดซีเรียด้วย” มาโน กล่าวปิดท้าย