เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการอวยพรวันคล้ายวันเกิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครบ 69 ปี ว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการในวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นตัวแทน ครม. นำอวยพรวันเกิดนายกฯ สำหรับพวกเราจะหาเวลาอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเข้าอวยพรท่านนายกฯ

เมื่อถามว่า พรที่อยากจะให้คือการได้เข้าร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งหน้าหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะ และกล่าวว่า “เดี๋ยวคิดก่อน อวยพร แล้วจะมาบอกสื่อ ว่าอวยพรว่าอะไร”

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินหน้าต่อต้านพรรคภูมิใจไทย อย่างต่อเนื่องภายหลังการยุบสภา ว่ามีการทำโพล 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โพลกระแสความนิยมพรรคภูมิใจไทยขึ้นเยอะ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายของพรรค ขึ้นพรวด ๆ อาทิ จ.อุทัยธานี ในพื้นที่ภาคใต้ ที่มี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะกำกับดูแลพื้นภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย ผู้สมัครมีพื้นฐานคะแนนนิยมที่ดีมาก ส่วนภาคอีสาน นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค บอกว่ากระแสดีหมดเลย โดยสรุปภาพรวมถือว่าดี รวมทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานครก็กระแสดีเช่นกัน และเราทำงานของเราไม่เคยรู้สึกหวั่นไหว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังยุบสภาจะแบ่งบทบาทการทำงานฝ่ายบริหารกับงานการเมืองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า งานประจำคงมอบหมายให้ปลัดกระทรวง ได้ปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้เราก็เป็นคณะรัฐมนตรีรักษาและคาดว่าวันนี้ ในที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะได้ชี้แจงขั้นตอนการทำงานการทำงานของ ครม. ในช่วงรักษาการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะลงพื้นที่หาเสียง โดยตั้งเป้าได้ ส.ส.หลัก 100 ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 70 ใช่หรือไม่ นายอนุทินย้อนถามสื่อ ทำไมตั้งต่ำจัง ตัวเลข ส.ส. ต้องมีแต่อัปขึ้น จะไปตั้งต่ำได้อย่างไร เพราะพวกเราทำงานเต็มที่ ลงพื้นที่ทุกคนมากรุงเทพฯ เฉพาะวันประชุมคณะรัฐมนตรี ยกตัวอย่าง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ น้ำหนักลดลงไป 5 กิโลกรัม 

โดยพรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมในการเลือกตั้ง และเราเตรียมมานานแล้ว จากนี้มีแต่จะเร่งสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน ที่ผ่านมา มีการบอกว่า เราดำเนินการเพื่อไปเป็นพรรคตัวแปร แล้วร่วมรัฐบาล ขอบอกว่า ถ้าคิดแบบนั้น เรามีแค่ 30-40 เสียง ก็ได้แล้ว ไม่ต้องตั้งใจจะเอามากมาย แต่พรรคและหัวหน้าพรรคมองว่านอกจากโอกาสทำงาน เราต้องพาประเทศไทยไปสู่ความรุ่งเรือง อย่างมั่นคง มีความปรองดอง อันนี้สำคัญ และเป็นความโดดเด่นของพรรคเราด้วย เราต้องนำทั้งฝ่ายอนุรักษ์ และฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมมือกัน เดินหน้าพัฒนาประเทศ

“เราต้องสร้างให้พี่น้องประชาชนแข็งแรงก่อน ถ้าฐานมันแข็งแรง ส่วนอื่น ๆ ก็แข็งแรง ถ้าฐานอ่อนแอ มันก็พังทั้งหมด ตอนนี้ประชาชน ต้องหาทางให้อยู่ดี กิน ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ เราเลยมีนโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท เราเลยมีนโยบายเกษตรร่ำรวย เพื่อช่วยเหลือประชาชน”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงจำนวน ส.ส.ที่พรรคจะได้รับ นายอนุทิน ย้ำว่า น่าจะถึง 100 เสียงปัจจุบันมีประมาณ 75 ที่นั่ง เป้าของเราไป 100 แล้วตอนนี้ เมื่อถามย้ำถึงตัวเลข 70 ที่นั่ง นายอนุทินย้ำว่า อันนั้น เป็นข้อมูลของโพลทั่วไป แต่เป้าของเราต้องแตะหลัก 100  

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมา เราทำงานด้วยกันได้ มีผลงานทุกพรรค ประชาธิปัตย์ ดูแลกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ได้ดี อย่างกระทรวงทรัพยากรฯ ก็ทำงานดี ทุกพรรคตั้งใจทำงานภูมิใจไทย เราก็จัดการโควิดมีประสิทธิภาพ ต้องขอบคุณ ครม.กับ ภาคประชาชนที่สนับสนุนคมนาคม เราก็พัฒนาถนนหนทางการเดินทางสะดวกสบาย ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตอนนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยมากมาย เป็นความร่วมมือที่ดีรัฐบาลผสม ก็มีส่วนดี มันเช็กแอนด์บาลานซ์

เมื่อถามว่าแล้วจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอหลังเลือกตั้ง แล้วหารือกัน มันมีปัจจัยจำนวนมากให้ต้องคิด ทั้งเสียง ส.ส. ที่แต่ละพรรคจะได้ ทั้งท่าทีของ ส.ว. 

เมื่อถามว่า การโจมตีทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทย กระทบกับคะแนนเสียงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมมองว่า พรรคเรามีราคา ก็ต้องถูกด้อยค่า แค่นั้นเอง แต่เราไม่ไปสู้นะ ลุยหาเสียงสร้างความไว้ใจกับประชาชนดีกว่า การที่เรามาหยุดโต้ตอบ มันอาจจะทำให้เราพลาดลงพื้นที่ไป 10-20 ตำบล แล้วเรื่องที่เขาพูด มันก็ชัดอยู่แล้ว ว่าไม่เป็นความจริง อย่างเรื่องเงินเข้าธนาคาร 30,000 ล้านบาท มันเป็นไปได้ที่ไหน เงินเข้ามาขนาดนี้ ถูกตรวจสอบตาย แล้วมาบอกว่ามีทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม นี่ก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องยังไม่ผ่าน ครม.เลย กาลเวลาจะพิสูจน์เอง” 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แอปพลิเคชัน Line Today ปิดการทำกิจกรรมแบบสอบถามผ่านแอปพลิเคชัน ไลน์ทูเดย์ ในห้วข้อ “เลือกตั้งปี ’66 คุณจะลงคะแนนให้ ”พรรคการเมือง“ ใด? ซึ่งเปิดสำรวจตั้งแต่ วันที่ 14-20 มี.ค. 66 ปรากฏผลการสำรวจราว 96,000 คน อันดับ 1 ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย 45,655 คะแนน คิดเป็น 47.28% อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย 19,061 คะแนน คิดเป็น 19.47% อันดับ 3 พรรคก้าวไกล 9,837 คะแนน หรือคิดเป็น10.19 % อันดับ 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ 7,885 คะแนน หรือคิดเป็น 8.17 % ดันดับ 5 พรรคพลังประชารัฐ ได้ 6,898 คะแนน หรือคิดเป็น 7.14 % 

อันดับ 6 พรรคประชาธิปัตย์ 1,986 คะแนน คิดเป็น 2.06% อันดับ 7 พรรคเสรีรวมไทยได้ 1,783 คะแนน คิดเป็น 1.85% อันดับ 8 พรรคอื่น ๆ 1,008 คะแนน คิดเป็น 1.04% พรรคไทยสร้างไทย 660 คะแนน คิดเป็น 0.68% อันดับ 9 พรรคไทยภักดี 593 คะแนนหรือ 0.61% อันดับ 10 พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ 497 คะแนน คิดเป็น 0.51%