สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองบันดาอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ว่า นายอากุส อาริอันโต หัวหน้าเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าจังหวัดอาเจะห์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ไปพบเสือสุมาตรา 3 ตัวด้วยกัน เชื่อว่าเป็นแม่ลูกกัน มีลูกตัวผู้กับตัวเมียในสภาพกลายเป็นศพเหลือแต่ซาก ในพื้นที่อนุสัตว์พันธุ์สัตว์ป่าในระบบนิเวศลูเซอร์พื้นที่อนุรักษ์เสือสุมาตราจังหวัดอาเจะห์ บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย หลังจากที่พวกมันไปติดกับของนายพรานที่ออกล่าสัตว์ป่า โดยเสือสุมาตราตัวแม่และลูกเสือตัวเมียถูกพบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่วนลูกเสือตัวผู้ถูกพบอยู่ห่างออกไป 5 เมตรเท่านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


จากการตรวจสอบร่องรอยซากเสือสุมาตรา พบว่า เสียชีวิตเพราะบาดแผลที่เกิดจากกับดักของนายพราน ซึ่งเจ้าหน้าที่พบกับดักลักษณะแบบเดียวกันนี้หลายอัน ซึ่งใช้สำหรับดักหมูป่าในฟาร์ม แต่กลับมาพบในป่าที่พบซากเสือ

หัวหน้าเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าฯ กล่าวว่า การใช้กับดักหมูป่ามาใช้ในป่าแบบนี้จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะล่าหมูป่า นอกจากมีเจตนาที่จะดักสัตว์ป่าหายาก เพื่อนำไปขายหาเงินมากกว่า สำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่าจังหวัดอาเจะห์ จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้

ทั้งนี้ เสือสุมาตราถือเป็นสัตว์ป่าหายาก ถูกล่าเพราะพื้นที่ป่าลดจำนวนลง ตามรายงานระบุว่ามีเหลืออยู่ในป่าราว 400 ตัวเท่านั้น
นับเป็นคดีล่าสุดของการล่าสัตว์ป่าบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ซึ่งนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้แจ้งเตือนแล้วว่า การแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการออกล่าสัตว์หาของป่าเพิ่มมากขึ้นเพราะชาวบ้านต้องหากินเพื่อปากท้อง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาก็พบเสือตัวเมียตายไป 1 ตัว หลังจากถูกกับดักในป่าเขตเซาท์อาเจะห์ แล้วยังมีช้างป่าถูกตัดหัว 1 ตัว เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ในสวนปาล์มเขตอีสต์อาเจะห์ ตำรวจจับคนล่าได้พร้อมกับพวกอีก 4 คน ขณะพยายามซื้อขายงาช้างจากช้างป่าตัวที่ถูกฆ่าตาย นอกจากนั้นตำรวจจังหวัดอาเจะห์ยังจับชาย 4 คน เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ในข้อหาล่าเสือด้วยกับดักหลุมพราง นำซากไปขายได้ 100 ล้านรูเปียห์ (6,900 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 207,000 บาท) จากนั้นอีกไม่กี่วันยังมีเสืออีก 1 ตัวตายเพราะกินเหยื่อแพะวางยาด้วยยาเบื่อหนูในจังหวัดนอร์ธสุมาตรา

เครดิตภาพ AP