เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 ร่วมกันแถลงข่าวผลปฏิบัติการทลายแหล่งซุกซ่อน จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ 2 ราย ที่จำหน่ายให้กับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ต่างๆ

พล.ต.ต.ไพโรจน์ เปิดเผยว่า รายแรก เป็นแหล่งซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เข้าตรวจค้น 3 จุด คือ อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง บนถนนจันทราคามพิทักษ์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม, บ้านหลังหนึ่งที่หมู่ 5 ตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม และโกดังแห่งหนึ่งบนถนนเทศา ตำบลพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าคละแบบ ​88,214 ชิ้น หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คละแบบ ​70,589 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าแบบดูดแล้วทิ้ง ​​17,631 เครื่อง ​​เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า คละแบบ ​10,350 เครื่อง คอยน์บุหรี่ไฟฟ้า ​​1,000 ชิ้น อะไหล่หัวบุหรี่ไฟฟ้า ​​2,705 ชิ้น รวมมูลค่าของกกลางที่ตรวจยึดได้กว่า 50 ล้านบาท

รายที่ 2 เป็นแหล่งซุกซ่อนในกรุงเทพฯ โดยเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียม บนถนนพญาไท แขวงพญาไท เขตราชเทวี จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน และตรวจยึดของกลาง ​​บุหรี่ไฟฟ้า iqos ตัวแท่งดูด+เครื่องชาร์จ ​537 เครื่อง บุหรี่ไฟฟ้า iqos ตัวแท่งดูด ​​189 ตัว ​​มวนบุหรี่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ TEREA ​6,529 คอตตอน มวนบุหรี่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ marlboro 6,017 คอตตอน รวมมูลค่าของกกลางที่ตรวจยึดได้กว่า 30 ล้านบาท

รวมผลการตรวจค้นทั้ง 2 ราย ยึดของกลางรวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท จึงดำเนินคดีผู้ต้องหาในความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร นำสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นสินค้าต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร และอยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ที่มีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ครอบครองหรือไว้สูบ ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 246 วรรคหนึ่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าสูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ ด้วย จึงฝากเตือนสิงห์อมควันบุหรี่ไฟฟ้าว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น นอกจากทำลายสุขภาพแล้ว จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย.