น่าสนใจขึ้นมาทันทีหลังล่าสุดนักแสดงรุ่นใหญ่ ต้น จักรกฤษณ์ ได้ควงภรรยาดีกรีแอร์โฮสเตส สาว สุตา มาเปิดเผยเส้นทางความรัก 17 ปี ลบคำครหาอายุห่างกัน 9 ปี ไม่เป็นอุปสรรค แล้วเพราะอะไรพี่ต้นถึงหยุดเจ้าชู้เพราะผู้หญิงคนนี้ พร้อมเรื่องราวของโควิดที่ทำพิษให้ไร้งานนับปี ผ่านทางรายการคุยแซ่บ show แบบจัดเต็ม

ต้น เล่าว่า “โควิดรอบนี้ต้องบอกก่อนว่าแต่ละบ้านมีความพร้อมไม่เหมือนกัน หนักนะของผม แต่อาจจะไม่หนักอีกหลายบ้าน ในขณะเดียวกันก็อาจจะหนักกว่าอีกหลายคน ตรงนี้จะบอกว่าเราหนักอะนะ ผมไม่ได้ออกกอง ส่วนคนนี้ภรรยาผมเป็นด่านแรก เพราะว่าทำงานสายการบิน ที่เราเจอโควิดจะ 2 ปีแล้ว รายจ่ายมันก็จ่ายเท่าเดิม แต่เมื่อก่อนมันก็มีรายได้ พอไม่มีรายได้ รายจ่ายมันเป็นอะไรที่แบบ เห้อ… เรื่องค่าใช้จ่ายผมดูแลไง สาวเขาก็รับผิดชอบบ้านตัวเอง คือคุณพ่อสาวไม่ค่อยสบายต้องดูแล ถามว่าเรามีทะเลาะกันไหม คือต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ นิสัยผมใครอยู่ด้วยต้องทะเลาะอยู่แล้ว คือผมเป็นคนกวนประสาท เสียงดัง ขี้โวยวาย อันนี้ใครอยู่ด้วยก็ต้องปวดหัวคือมันไม่ได้เป็นอารมณ์ครับ มันเป็นสันดาน อารมณ์ผมปกติ ผมขี้เล่น สนุกสนาน จริงๆช่วงโควิดอาการนี้ ผมพยายามคอนโทรนตัวเองให้เป็นปกติ เพราะว่าผมตระหนักอยู่เสมอว่าปัญหาที่มันเกิดขึ้น ทุกบ้านเจอหมด แต่ด้วยความที่มันหลุดไปด้วยความที่มันเครียด บวกกับลักษณะน่ากระโดดถีบอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เขาปวดหัว บางทีรู้ตัวก็สงสาร งานสาวไม่เคยอยู่เป็นที่ บินมา 20 ปีแล้ว ครั้งแรกเลยที่ 2 ปีนี้อยู่ด้วยกันทุกวัน”

“เรื่องทรัพย์สินที่เราสะสมมา พอมีวิกฤตเกิดขึ้นสำหรับผม ผมคิดว่าอะไรก็ตามทำแล้วมันเป็นประโยชน์ ในบรรดาหลายๆชิ้น มีนาฬิกาอยู่เรือนนึงเขาซื้อให้ เป็นไอเทมสุดรักของผมเลย ก็ต้องไปนะ ทุกอย่าง ขออนุญาตนะครับ สิ่งที่ผมกำลังจะพูดออกไปเป็นความเชื่อของผม สิ่งทั้งหลายทั้งปวง บุคคลไม่ควรไปยึดมั่น ถือมั่น ไม่ใช่ไม่อยากได้ อยากมี รถก็อยากมี กองถ่ายมันก็ต้องบุกตะลุย แต่ถ้ามันยังประโยชน์แล้วช่วยเหลือสถานการณ์ไปได้ เอาจริงๆ ถ้าล็อกดาวน์อีกสัก 3 เดือน สมมติ อาจจะอยู่วัดเลยนะ ผมว่าผมหนักนะครับ แต่มีคนหนักกว่าผม มีบางคนต้องพึ่งพาถุงยังชีพแล้วนะ แต่เราอย่าไปทำตัวให้เดือดร้อนวุ่นวาย เพราะมันไม่ได้มีเราคนเดียวอยู่ในประเทศ”

ต้น เล่าต่อว่า “เรื่องเคยเลิกกันผมร้องไห้นั้น ก็เสียใจ ขอโทษว่าเอาแต่ใจตัวเอง คิดน้อยไปหน่อย อาจจะเห็นว่าผมแก่กว่าเขาตั้ง 9 ปี มำไมเป็นแบบนี้ ก็เพราะผมเป็นแบบนี้ครับ ไม่ว่าจะซ้าย จะขวาผมไม่ได้อยากจะอยู่กับเขาคนละโลกเลย ผมอยากอยู่กับเขาตลอดเวลา 2 ปีที่เขาไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน ผมมีความสุขทุกวัน เพราะว่าผมรู้จักเขามา 10 กว่าปี ในแต่ละเดือนได้นอนหลับตื่นขึ้นมาอาทิตย์นึง 2 วันที่เจอกัน ย้อนกลับไปตอนเจอเขาคือผมโทรหาเพื่อน มีใครว่างไหม เพื่อนบอกมี เดี๋ยวนัดให้ แล้วหายไปเลย 3-4 เดือน ผมก็จะโทรฯถามตลอด คือสมัยก่อนมือถือไม่ได้เป็นแบบนี้ ระบบโซเชียลไม่ได้เป็นแบบนี้ แล้วเขาไปบินไหนก็ไม่รู้ แล้วเพื่อนผมเป็นรุ่นพี่เขามาก ตอนเจอกันคือวันนั้นผมอัดรายการ เพื่อนโทรฯมาถามพร้อมไหม นัดได้แล้ว เราก็บอกว่าไปดิ เขาก็กำลังจะไปสยามกับเพื่อนเขา แล้วเพื่อนผมคนนี้ก็มา เราเห็นเพื่อนเขาก่อน แต่คิดว่าไม่ใช่ แต่พอเขาเข้ามาคิดว่าคนนี้ใช่แน่”

“แต่เรื่องของแต่งงาน ไม่ได้ขอนะ แต่ผมมีซีนเกาหลีนะครับ วันแรกเจอกันที่ร้านอาหาร ห้างเลิกแยกย้ายกลับบ้าน ผมโทรฯเลย พรุ่งนี้ว่างไหม ว่าง ไปกินข้าวกัน เดทแรกเป็นข้าวขาหมู ฟู้ดคอร์ต ตอนกลับฝนตก ผมกอดแล้วเอามือบังฝนให้ ตั้งแต่ผมอยู่กับเขามามีความอย่างนึง ที่นอกจากพ่อ แม่ แล้ว ผมคิดว่าความรู้สึกอันนี้มันพิเศษมาก นั่นคือความปราถนาดี และกำลังให้กับผมเสมอมาในทุกเรื่อง มันดีมาก ซึ่งคนอย่างผมไม่น่าจะได้รับ จริงๆผมไม่รู้ว่าวินาทีข้างหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าผมเลือกได้ ชีวิตผมอยากสิ้นสุดโดยมีเขาอยู่ในวินาทีสุดท้าย ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เขารู้อยู่แล้วว่าสาวไม่ชอบอะไร ถ้าทำได้ ทุกอย่างก็จะแก้ปัญหาได้แค่นั้นเอง รักตลอดเวลาที่ผ่านมาก็รัก”

สาว เผยว่า “เรื่องนิสัยเขาที่เขาพูดมาจริง 200% ขี้โวยวาย จุกจิก ถามว่านิสัยผู้หญิงไหม ผู้หญิงไม่เป็นขนาดนี้ เอาจริงๆ ไม่อยากเปลี่ยนใครเลย อยากเปลี่ยนตัวเอง อยากรู้สึกว่าพูดแล้วทำได้จริงๆ เช่น ปล่อยวาง แล้วต้องไม่เหลือความไม่สบายใจอยู่กับตัวเอง เรารู้สึกว่าเราอย่าเปลี่ยนเขาเลย เราเอาตัวเองให้รอดก่อน และช่วงที่ไม่ได้บินสาวก็มีขายอาหารเสริมจุกจิก แต่ส่วนใหญ่ถามว่าไม่ได้ทำงาน คือไม่ได้ออกไปบินจริง แต่ว่าการเตรียมตัวบินเยอะมาก คือเราต้องรักษาลายเส้นในหลายเครื่อง แล้วมันก็มีอะไรที่มันเกี่ยวข้องแบบเยอะมากที่เราจะต้องเรียน”