นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ผ่านการประชุมทางไกลวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า ได้ติดตามประเมินผลการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง หลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดให้บริการแบบเสมือนจริง (Soft Opening) ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.64 โดยไม่คิดค่าโดยสาร พบว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณวันละ 3,073 คน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และนโยบายของรัฐบาลที่ให้ประชาชนงดการเดินทางหากไม่จำเป็น ทั้งนี้หากพิจารณาความตรงต่อเวลา และความน่าเชื่อถือในการให้บริการ พบว่าอยู่ที่ 96.84% และ 99.35% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับการให้บริการเป็นที่น่าพอใจ

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการในด้านต่างๆ ดังนี้ การเตรียมความพร้อมด้านการเดินรถและการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง มีการปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทางเพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ปรับปรุงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง เพื่อให้มีรถโดยสารประจำทาง หมวด 1 กรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง และรถโดยสารประจำทางหมวด 4 รองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงทุกสถานี ซึ่งได้สั่งการให้วิเคราะห์ระบบการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่งให้ครอบคลุม และไม่กระทบต่อการสัญจรของประชาชน

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการด้านสถานี รฟท. ได้จ้างทำความสะอาดและกำจัดขยะบริเวณสถานีกลางบางซื่อ และบริเวณรถไฟฟ้าสายสีแดง พร้อมจ้างบริการรักษาความปลอดภัยและจราจรบริเวณสถานีกลางบางซื่อและบริเวณรถไฟฟ้าสายสีแดงจำนวน 12 สถานีเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ได้จัดทำประกาศเชิญชวนแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างจัดทำรายงานเพื่อขออนุมัติออกประกาศเชิญชวน เสนอคณะอนุกรรมการกำกับการบริหารทรัพย์สินฯ และคณะกรรมการรถไฟฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติออกประกาศเชิญชวนต่อไป นอกจากนี้ยังได้รายงานผลการสำรวจการจัดทำป้ายตามมาตรฐานป้ายสัญลักษณ์ และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานอารยสถาปัตย์ ณ สถานีกลางบางซื่อแล้ว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้รับทราบกรอบการพัฒนาสถานีเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้าในระยะยาว สำหรับสถานีเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารที่สถานีรังสิต สถานีตลิ่งชัน และจุดจอดรถอโศก พร้อมทั้งสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่สถานีเชียงรากน้อย สถานีวัดสุวรรณ และ ICD ลาดกระบัง โดยมอบหมายให้ รฟท. ไปศึกษาในรายละเอียดในการพัฒนาต่อไป นอกจากนี้ยังได้รับทราบผลการดำเนินการโครงการระบบขนส่งสาธารณะเพื่อการเชื่อมต่อการเดินทางสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (สถานีรังสิต) ตามที่คณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก จ.ปทุมธานี (อจร. จังหวัดปทุมธานี) ได้เห็นชอบแผนดำเนินการตามผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ซึ่งคาดว่าการให้บริการในเส้นทางสายสถานีรถไฟฟ้ารังสิต-ธัญบุรีคลอง 7 จะสามารถเร่งรัดดำเนินการให้สามารถให้บริการได้ทันกับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงอย่างเป็นทางการได้ในเดือน พ.ย.นี้

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ด้านการกำหนดราคาค่าโดยสารและบัตร ได้รับทราบผลการดำเนินงานในประเด็นหลัก ได้แก่ การกำหนดอัตราค่าโดยสาร ความพร้อมเข้าสู่ระบบตั๋วร่วม บัตรโดยสารในการเดินทางร่วม โดยได้มอบหมายให้ รฟท. พิจารณาค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นต้นทุนการดำเนินงานและพิจารณาผลประกอบการจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนในด้านความพร้อมเข้าสู่ระบบตั๋วร่วมภายใต้มาตรฐาน EMV รองรับการใช้งานในรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. และเรือโดยสาร MINE Smart Ferry นั้น สามารถเปิดใช้ระบบการชำระค่าโดยสารตามมาตรฐาน EMV ของรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้ ภายในปลายปี 64 รวมทั้งเปิดใช้งานกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงได้ภายในต้นปี 65

ขณะที่ด้านบัตรโดยสารในการเดินทางร่วม ได้มอบหมายให้ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ประสานการหารือร่วมระหว่าง รฟท. ขสมก. กรมเจ้าท่า (จท.) ผู้ให้บริการเรือโดยสาร รวมทั้งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM เพื่อให้ได้ข้อสรุปในรายละเอียดโปรโมชั่นส่งเสริมการเดินทางร่วมระหว่างรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) รถโดยสารประจำทางของ ขสมก. เรือโดยสารและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานในด้านเทคนิคของบัตรโดยสาร และรูปแบบของข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกัน

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานจัดทำบัตรโดยสารในการเดินทางร่วมกับ รถโดยสารประจำทางของ ขสมก. เพื่อชำระค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายรายเดือนในบัตรเดียวกันนั้น กำหนดให้บัตรดังกล่าว สามารถเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ในระยะเวลา 1 เดือน นับจากวันแรกที่ใช้งานผู้โดยสารสามารถซื้อบัตรโดยสารในการเดินทางร่วมได้ที่เขตการเดินรถตามที่ ขสมก. กำหนด และห้องจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดง พร้อมทั้งสามารถเติมเงินเข้าบัตรได้หลายช่องทาง เช่น ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย แอพพลิเคชั่น Krungthai NEXT ตู้เติมเงิน รวมทั้งการเติมเงินผ่าน QR Code การเติมเงินที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ซึ่งการชำระเงินค่าโดยสารในการเดินทางนั้น ผู้โดยสารจะใช้บัตรดังกล่าว ชำระผ่านเครื่อง EDC บนรถเมล์ ขสมก. และแตะเข้า Gate ของสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งจะทำให้การใช้บัตรโดยสารร่วมดังกล่าวเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็วในการเดินทางเชื่อมต่อ

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ได้มอบนโยบายในการกำหนดอัตราค่าโดยสารสำหรับการให้บริการ ต้องคำนึงถึงค่าครองชีพของประชาชนในสภาวการณ์ปัจจุบัน และการชดเชยรายได้ของการเดินรถจากการบริหารเชิงพาณิชย์ โดยจะต้องยึดแนวทางการพัฒนาระบบรถไฟฟ้า เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวของประชาชน ลดการใช้พลังงาน และแก้ปัญหาการเกิดมลพิษ เช่น ฝุ่น PM2.5 และพิจารณาการกำหนดค่าแรกเข้าให้มีความเหมาะสม เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดอัตราค่าโดยสารต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ขณะที่ด้านการพัฒนาสถานีกรุงเทพ ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางการพัฒนาพื้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และแผนการพัฒนาแนวพื้นที่ระหว่างสถานีบางซื่อถึงสถานีกรุงเทพ โดย รฟท. จะสำรวจรายละเอียด และตรวจสอบพื้นที่ รวมถึงอาคารที่จะต้องทำการอนุรักษ์ และจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ที่จะต้องสอดคล้องกับแผนการลดจำนวนรถไฟที่เข้าสู่สถานีกรุงเทพ แผนงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินและแผนงานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างสอดรับกัน และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้พิจารณาถึงการอนุรักษ์ความเป็นรถไฟไทยจากสถาปัตยกรรมเดิม และรายได้การพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อให้สามารถนำมาบำรุงรักษาแหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่ทางรถไฟเดิมโดยการพัฒนาให้เป็นพื้นที่สวนสาธารณะและร้านค้าชุมชน โดยเน้นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาพื้นที่ ทั้งนี้ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารการให้บริการ หรือร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับการให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage : Bangsue Grand Station หรือ โทรสายด่วน 1690 เพื่อกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย จะได้นำข้อมูลมาใช้ประกอบการพิจารณาพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุดต่อไป