นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำโครงการเชื่อมโยงเศรษฐกิจชุมชนกับห่วงโซ่บริการยุคใหม่ว่า ขณะนี้ สนค. ได้คัดเลือกจังหวัดระนองและแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดต้นแบบในการพัฒนาเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและต้นแบบบริการ โดยใช้จุดแข็งของน้ำแร่ร้อน เป็นตัวชูโรง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการที่ จ.แม่ฮ่องสอน แล้ว โดยมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้

ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาธุรกิจบริการสุขภาพและเชื่อมโยงเศรษฐกิจชุมชนกับห่วงโซ่บริการยุคใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อประสานการทำงาน โดยจะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อเสนอแนะ พร้อมกับประสานจัดทำความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ และผู้สนใจร่วมลงทุน ผลักดันการจัดงานแสดงบริการและสินค้า ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

นอกจากนี้ จะมีบริการดูแลรักษาสุขภาพด้วยน้ำแร่ร้อน ควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะยกระดับให้แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เมืองสุขภาพชั้นนำของภาคเหนือตอนบน ภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น

สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถนำจุดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติด้านน้ำพุร้อนมาผสมผสาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครบวงจรได้ โดยแหล่งน้ำแร่ภูโคลน เป็นแหล่งน้ำแร่และโคลนธรรมชาติที่มาจากสายน้ำแร่ใต้พื้นดิน ที่ผ่านการวิจัยแล้วว่ามีคุณสมบัติเป็นโคลนบำบัด มีแร่ธาตุทัดเทียมกับแหล่งน้ำแร่โคลนชั้นนำของต่างประเทศ ซึ่งพบได้เพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น ได้แก่ ทะเลสาบเดดซี ในประเทศอิสราเอลและจอร์แดน แหล่งโคลนจากลาวาภูเขาไฟหรือโคลนจากภูเขาไฟในประเทศโรมาเนีย และโป่งเดือดแม่สะงา หรือ ภูโคลน จ.แม่ฮ่องสอน

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ได้แก่ น้ำพุร้อนผาบ่อง น้ำพุร้อนท่าปาย น้ำพุร้อนธรรมชาติป่าอนุรักษ์ไทรงาม น้ำพุร้อนเมืองแปง น้ำพุร้อนหนองแห้ง และน้ำพุร้อนแม่อุมลอง และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากแหล่งน้ำพุร้อนไปยังชุมชน เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในรีสอร์ท และเปิดให้บุคคลภายนอกซื้อบัตรเข้าใช้บริการ รวมทั้งยังมีการให้บริการนวดเท้า นวดไทย นวดน้ำมัน และนวดขัดผิว เช่น บ้านรักไทย และภูโคลน เป็นต้น