เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพรถยนต์กระบะสีน้ำเงิน โดยที่ท้ายรถมีสิ่งของวางอยู่หลายอย่าง ได้ขับมาจอดหน้ามณฑปที่บรรจุร่างของหลวงปู่เพ็ง พระเกจิ อาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัด ที่มรณภาพไปนานแล้วแต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย ญาติโยมจึงได้บรรจุร่างไว้ในโลงแก้ว เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา ซึ่งเมื่อรถยนต์จอดแล้วได้มีคนลงมาจากรถทางประตูฝั่งคนขับ

จากนั้นได้เดินมาอุ้มตู้บริจาคไปวางไว้บนเบาะข้างคนขับและขับรถออกไป พร้อมกับระบุข้อความว่า “รถคนร้ายที่ขโมยตู้บริจาควัดป่าสักเรไร หมู่ 2 ต.นาป่า อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ตอนนี้ยังจับไม่ได้ ระวังข้าวของตามบ้านกันเด้อ กลางค่ำกลางคืน ขนาดกลางวันแสก ๆ โจรยังขโมย”

หลังจากคลิปวิดีโอและข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น และแจ้งเบาะแสคนร้ายรายดังกล่าว

ด้าน พระคะนึง ถิรธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสักเรไร เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 4 มี.ค. 2566 ได้มีรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีน้ำเงิน ทะเบียน ผจ 320 เพชรบูรณ์ มาจอดที่หน้าศาลา ต่อมาได้มีผู้หญิงลักษณะเป็นทอม ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงยีนสีน้ำเงิน รองเท้าแตะ เดินลงมาหาตน แล้วเสนอขายน้ำผึ้งในราคาขวดละ 350 บาท โดยจะขายให้ 3 ขวด ในราคา 1,000 บาท โดยอ้างว่าเพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุก จึงอยากได้เงินเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ตนดูแล้วน่าจะเป็นน้ำผึ้งปลอมและขายแพง จึงปฏิเสธไป แต่สาวทอมคนดังกล่าวก็ตื้อขายจนตนเองรำคาญ จึงช่วยซื้อเพื่อตัดความรำคาญ แต่มีเงินเพียง 600 บาท ซึ่งสาวทอมก็ยอมขาย จากนั้นได้ขับรถออกไป

ต่อมาในช่วงเย็นพระลูกวัดได้ไปปิดประตูมณฑป และพบว่าตู้บริจาคได้หายไป จึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดู จึงพบว่า สาวทอมคนดังกล่าวเป็นคนขโมยไป ส่วนที่ไม่มีผู้ใดเห็นนั้นเนื่องจากว่าจุดที่มณฑปอยู่ เป็นจุดอับสายตา เพราะมีสิ่งปลูกสร้างบังอยู่ จากนั้นจึงได้ไปตรวจสอบกล้องของชาวบ้านตามจุดต่าง ๆ ก็พบว่า ได้หลบหนีไปทางด้านตำบลน้ำร้อน จึงได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งว่า พบตู้บริจาคไปทิ้งไว้ที่วัดเนินสะเดา ต.ท่าแดง อ.หนองไผ่ ซึ่งอยู่ห่างจากวัดป่าสักเรไร ระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบก็พบว่า เป็นตู้ที่ขโมยไปจากวัดจริง ๆ แต่ถูกทุบจนกระจกแตกและขโมยปัจจัยซึ่งมีอยู่ประมาณ 3,000 บาทไปหมด จึงอยากจะเตือนให้ญาติโยมและวัดต่าง ๆ ให้ระวังคนร้าย และรถตามลักษณะดังกล่าว และหากพบให้โทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้จับกุม เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีกก็เป็นได้.