เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง กล่าวให้โอวาทสมาชิกใหม่พรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า เราคือครอบครัวเดียวกันครอบครัวประเทศไทย โดยการสวมเสื้อพรรควันนี้คือ แสดงว่าเป็น 100% ของพรรคแล้ว ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนและเชื่อมั่น ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ตนยังไม่เคยผิดหวังอะไรในการเข้าร่วมมาเป็นสมาชิกพรรค วันนี้อยากบอกว่า เป็นอีกวันที่นายกฯ มีความสุข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พอพูดถึงช่วงนี้หลังรู้ตัวว่าเผลอแทนตัวเองว่านายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า “เอาอีกแล้ว ชอบเรียกฉันแบบนี้ เวลามาที่นี่ ห้ามพูดคำนั้นโดยเด็ดขาด เรียกประธานอะไรก็ได้สั้น ๆ หน่อย ผมอาจเป็นผู้ใหญ่สักนิดในการให้คำปรึกษาหารือในประเด็นต่าง ๆ ที่เรายังมีปัญหา เราต้องประสานกันให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว”

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ตนไม่ใช่ศัตรูกับใครเลย ทุกพรรคไม่ใช่ศัตรูของตน และวันนี้ยินดีที่มีน้องใหม่มา คนรุ่นใหม่ พี่เข้าใจดีว่าคนรุ่นใหม่ต้องการอะไร แต่ต้องดูว่ามันจะมากน้อยแค่ไหนอย่างไร วันนี้เราได้รับการยอมรับจากต่างประเทศว่าเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านประชาธิปไตยมากที่สุดในอาเซียน ขณะที่คนในประเทศก็มีปัญหาอยู่ แต่เราทำดีที่สุดแล้วหลายอย่างได้รับการยอมรับอันดับต้น ๆ ของโลก สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าจะมาขยายต่อได้ เปิดดูในโซเชียลเว็บไซต์อะไรต่าง ๆ ถ้าสงสัยอะไรก็เปิดดูได้ ผลงานรัฐบาลผลงานลุงตู่ อะไรก็ว่าไป

“ผมเห็นหน้าตาท่านแล้ว ผมก็เชื่อมั่นท่าน อะไรที่ผิด ผมไม่พาท่านไปทำ ผมจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และทำให้ประชาชนทุกคนทุกช่วงวัยทั้งประเทศได้รับประโยชน์ ในทางที่ถูกต้องและเป็นไปได้ ผมไม่อยากให้ทุกคนต้องเดือดร้อนในวันข้างหน้า ถ้าทำอะไรผิดไปมาก ๆ มันก็มีปัญหาก็จะเห็นตัวอย่างอยู่แล้วผมไม่ไปเข้าร่วมใครพรรคไหนจะว่าไงผมไม่ไปเกี่ยวข้อง ในโซเชียลก็ไปเปิดดู ก็ดูไป แต่อย่าไปโกรธเคืองอย่าไปตอบโต้อะไรมากทะเลาะกันไปไม่เกิดประโยชน์ผมบอกแล้วพรรคเราไม่โจมตีพรรคไหนทั้งสิ้น เราต้องเริ่มความรักสามัคคีจากตัวพวกเราก่อน ปัญหาเรามากมาย ท่านต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมดเพื่อเป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ชู 2 นิ้ว พร้อมกล่าวว่า “บัตร 2 ใบ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ต้องคิดมาก บอกไม่ต้องคิดมากเลือกพรรคเลือกคน รวมไทยสร้างชาติเสร็จเมื่อไหร่ ก็เลือกเบอร์นั้น” ก่อนจะออกตัวว่า “โอเคนะ พูดมากเดี๋ยวอันตราย”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นพิธีว่า วันนี้เป็นบรรยากาศที่สดชื่น บรรยากาศแห่งมิตรไมตรีเป็นบรรยากาศที่นายกฯ” ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะอุทานว่า “เอ้ย ประธาน” และกล่าวต่อว่าขอบคุณบรรดา ส.ส.สมาชิก หัวหน้าและเลขาธิการพรรครวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่พรรคทุกคนที่ทำให้มีวันนี้เกิดขึ้นมาได้เป็นสิ่งที่ทำให้นายกฯ มีความสุข ก่อนกล่าวแทนตัวเองใหม่ว่า “ประธานขอโทษทีแล้วกันก็แล้วกันบางทีมันติด ก็ต้องขอโทษไม่ได้เจตนายืนยัน”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความพร้อมของพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้งว่า มีความพร้อมทันเวลาแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและกติกาของ กกต. และยืนยันว่า ส่งครบทุกเขต ส่วนตั้งเป้าไว้อย่างไรนั้น เป้าอาจตั้งแล้วไม่ได้ตามเป้าหรือดีกว่าเป้าแล้วจะไปตั้งทำไมแต่เชื่อมั่นว่าจะได้มากกว่าเป้า

เมื่อถามย้ำว่า ต้องการเป้า ส.ส.อยู่ที่เท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ยังไม่บอก” และเมื่อถามว่า ตั้งเป้าจะได้ ส.ส.มากที่สุดในสภาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็หวังอย่างนั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวย้ำว่า การเป็นเป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นพรรคที่ได้คะแนนมากสุด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ใช่ การจัดตั้งรัฐบาลกติกาคือต้องได้คะแนนเสียงสูง ซึ่งมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลใช่หรือไม่ เสียงมากเสียงน้อยจะมีบทบาทในการพูดคุยกันต่อไปว่าจะเป็นรัฐบาลเป็นกันอย่างไร ครั้งที่แล้วก็เป็นแบบนี้ตนผ่านมาแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจว่า ทีมเศรษฐกิจเขาไม่ให้เอ่ยชื่อ หลายคนขออยู่เบื้องหลังและเสนออะไรมาต่าง ๆ ตนก็นำมาพิจารณาการทำงาน เมื่อถามว่า มั่นใจว่าทีมเศรษฐกิจจะสู้กับพรรคอื่นได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แน่นอน ได้แน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทย เปิดตัว นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะชูคนโดดเด่นขึ้นมาต่อสู้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนว่า “แล้วเขาเด่นตรงไหน เขาทำอะไร เขาทำธุรกิจ ประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” พร้อมกล่าวทิ้งท้ายก่อนขึ้นรถอีกว่า “จำคำพูดของผมไว้นะ คำว่าเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจหรือธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งแต่เป็นของประเทศ ดังนั้น ต้องหาคนที่เหมาะสม และการทำงานมีระบบมีขั้นตอนเยอะแยะไปหมด มีคณะกรรการและมีคนที่เก่งด้านเศรษฐกิจ เก่งด้านการธนาคาร การค้า พาณิชย์ อุตสาหกรรม ทั้งหมดต้องมาคุยด้วยกัน ไม่ว่าใครจะเก่งกว่ากันสั่งไปแล้วทำไม่ได้ มันติดกฎหมาย ก็ไปไม่ได้อีกอยู่ดี เราต้องแก้ไขตรงนี้ นี่คือรัฐบาลหน้าต้องทำแบบนี้เข้าใจหรือยัง เลิกถามสักทีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”