ความหลงใหลในการทำอาหารของ ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ หรือ “เชฟนุ” เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากคุณย่า ผู้ซึ่งมักจะเรียกใช้ให้ช่วยงานในครัวอยู่เสมอ แม้วัยนั้นไม่ชอบเพราะกลัวการสัมผัสเลือดหรือเห็นเนื้อเปื้อนเลือด ทว่าการเรียนรู้มากขึ้นจากการไปจับจ่ายซื้อของในตลาดสด จนทำให้มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญด้านการสรรค์หาวัตถุดิบ สำหรับเส้นทางสู่อาชีพเชฟเริ่มต้นขึ้นช่วงเดินทางไปเรียนด้านไอที เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

เชฟนุ-ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ

“ผมเริ่มต้นการทำงานเป็นผู้ช่วยในครัวที่ร้านอาหารไทยเล็กๆ ซึ่งเป็นของพี่สาว ทำให้ได้เรียนรู้ทุกขั้นตอน จนเกิดแรงบันดาลใจและมีใจรักในการทำอาหาร เมื่อเรียนจบจึงเดินหน้าตามความหลงใหลของตนเอง คิดสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ ขึ้น โดยการใช้กลิ่นและรสชาติที่คล้ายคลึงกันของส่วนผสมที่หาได้แล้วนำมาดัดแปลง ให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่น” เชฟนุเล่า หลังจากนั้นได้พัฒนาและฝึกฝนทักษะการทำอาหารอีก 3 ปี จึงเดินทางกลับไทย 

ด้วยคุณสมบัติเชฟมืออาชีพ เชฟนุจึงได้รับการทาบทามให้เป็นหัวหน้าพ่อครัวของ สยามยอชท์คลับ แหล่งแฮงค์เอาท์สุดชิล ตั้งอยู่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ ออกแบบขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมเมืองหลวงในยุครุ่งเรืองที่สองริมฝั่งแม่น้ำแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าของสยามในอดีต ยังอยู่ใกล้กับถนนเยาวราชและเจริญกรุง ตกแต่งบรรยากาศเสมือนการล่องเรือยอชท์ชมความงามบนท้องทะเล

“Broccolini” สลัดซิกเนอเจอร์เรียกความสดชื่น

ล็อบสเตอร์ แองเจิ้ลแฮร์

เนื้อแกะย่างพร้อมซอสสูตรลับเฉพาะ

ซึฟู้ดทาวเวอร์

ขนมหวานรสละมุน

เชฟนุ-ณัชยพงศ์ หัวหน้าพ่อครัว เชี่ยวชาญในการผสมผสานวิธีการปรุงอาหาร ระหว่างอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่กับอาหารแบบเอเชียในตำรับ มีการนำเครื่องเทศชนิดต่างๆ มาใช้ในการปรุง ตั้งแต่ยุคที่สยามประเทศทำการค้ากับโปรตุเกส ช่วงศตวรรษที่ 16 มาจนถึงสมุนไพรหอมนานาชนิดที่มีจำหน่ายในร้านค้าย่านไชน่าทาวน์ รายการเมนูกว่าครึ่งเน้นหนักทางซีฟู้ด โดยมี “พาสต้าปักเครี่ปูนิ่ม” ที่อยากย้ำหนักๆ ว่าห้ามพลาด!!

พาสต้าปักเครี่ปูนิ่ม

“คนไทยไม่ค่อยคุ้นกับเส้นชนิดนี้ แต่คนอิตาเลียนชอบกินมากกว่าเส้นยาว ประกอบกับตัวเองอยากเล่นเส้นรูปทรงแปลกใหม่ให้คนไทยลิ้มลอง จึงคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมาคลุกเคล้ากับส่วนผสมของเอเชีย เส้นปักเครี่ทำจากแป้งสาลี ไข่ น้ำมันมะกอก ทรงจะเป็นหลอดสี่เหลี่ยมแผ่นใหญ่ ปรุงแบบอาเดนเต้สไตล์” เชฟนุกล่าว

วัตถุดิบ มีดังนี้ เส้นปักเครี่ต้มสุก (Paccheri) 150 กรัม, เนื้อก้ามปู 50 กรัม, ปูนิ่ม 1 ตัว, แป้งทอดกรอบ 20 กรัม, ไวน์ขาว 10 มิลลิลิตร ส่วนผสมซอส ประกอบด้วย หอมแดง 5 กรัม, กระเทียมจีน 2 กลีบ, ขิง 5 กรัม, พริกชี้ฟ้าแดง 1 ลูก, ตะไคร้ 1 ต้น, ข่าอ่อน 5 กรัม,มะเขือเทศกระป๋อง 250 กรัม, เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 10 เม็ด, ไข่แดงเค็ม 2 ลูก, เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาล 1 ช้อนชา, น้ำมันพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ, ซอสพริกศรีราชา 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือ 4 กรัม

วิธีทำ ตำหอมแดง กระเทียม ขิง ข่า ตะไคร้ พริกชี้ฟ้า ให้ละเอียดแล้วนำไปผัดกับน้ำมันพริกเผาให้หอม เติมมะเขือเทศกระป๋อง ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว ซอสพริกศรีราชา น้ำตาล เกลือ ตั้งไฟอ่อนแล้วเคี่ยวให้งวดประมาณ 20 นาที นำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไข่แดงเค็มใส่ลงไป เคี่ยวอีก 5 นาที แล้วให้นำไปปั่นให้ละเอียด ควรทำทิ้งไว้ 1 คืน

นำปูนิ่มชุบแป้งทอดกรอบ ทอดจนเหลืองกรอบ พักทิ้งไว้ ผัดกระเทียมกับน้ำมันพริกเผา ใส่เนื้อปู ตามด้วยไวน์ขาว หลังจากนั้นให้ใส่ซอสและเส้นพาสต้าปักเครี่ที่ต้มไว้ ผัดจนซอสเคลือบเส้นดี แต่งใส่จาน ตกแต่งด้วยปูนิ่มทอดกรอบ ผักชีใบอ่อน พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่ 5 โมงเย็นของทุกวัน.

ช้องมาศ พุ่มสวัสดิ์ : เรื่อง

พิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์ : ภาพ