เมื่อวันที่ 23 ก.พ. น.ส.จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน และโฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปี 2565 ขยายตัวได้เพียง 2.6% หลังจากเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายขยายได้ต่ำเตี้ยเพียง 1.4% ทำให้ตลอด 4 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศหลังเลือกตั้งมา 4 ปี เศรษฐกิจทั้ง 4 ปี ขยายได้เพียง 0.3% เท่านั้น จากปี 2562 ขยายได้ 2.4 ปี 2563 ติดลบ -6.2% ปี 2564 ขยายได้ 1.5% และ ปี 2565 ขยายได้ 2.6% หรืออาจจะเรียกว่าเศรษฐกิจไทยเหมือนหยุดนิ่งมาตลอด 4 ปี นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมประชาชนถึงได้เดือดร้อนกันมาก

แต่เรื่องที่น่าห่วงคือ รายได้ต่อหัวของคนไทยในรูปดอลลาร์กลับลดลง ซึ่งเหมือนกับคนไทยถอยหลัง แทนที่จะเดินหน้า เพราะในปี 2563 คนไทยมีรายได้ต่อหัวต่อคนเฉลี่ย 7,200.7 ต่อมาในปี 2564 รายได้เฉลี่ยเพิ่มเป็น 7,254.1 แต่พอมาปี 2465 รายได้เฉลี่ยกลับลดลงเหลือเพียง 7,069.7 (ที่อัตราแลกเปลี่ยน 34.5 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งเท่ากับลดลงต่ำกว่าปี 2563 ด้วยซ้ำ แสดงถึงความถดถอยอย่างชัดเจน ทั้งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำที่สุดมาตลอด 8 ปี เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน แม้กระทั่ง ในปี 2565 ประเทศที่มีรายได้สูงแล้วอย่างมาเลเซีย ยังขยายได้ 8.7% หรือสิงคโปร์ ยังขยายได้ 3.8% หรือคู่แข่งอย่างเวียดนาม ขยายได้ถึง 8.0% ฟิลิปปินส์ ขยายได้ 7.8% เป็นต้น

นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคได้ เพราะเศรษฐกิจในไตรมาสสี่ปี 2565 ลดลงต่ำกว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ถึง 1.5% และหากเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวลดลงกว่าไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยติดลบ 2 ไตรมาสติดกัน และจะทำให้ไทยเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) ทันที ซึ่งหวังว่ารัฐบาลจะเร่งแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้น เพราะจะเป็นสัญญาณอันตรายทางเศรษฐกิจ โดยการส่งออกในต้นปีนี้ น่าจะยังคงติดลบอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการที่เศรษฐกิจโลกซบเซาอย่างรวดเร็ว และอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่เข้ามาเท่าที่ควร อีกทั้งการลงทุนที่แย่อยู่แล้วอาจจะหดหายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากไม่เร่งสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน การส่งออกของไทยก็จะขยายตัวได้ยาก และอาจจะติดลบไปอีกนาน

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยจะเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ เหมือนที่เสื่อมถอยมาตลอด 8 ปี ดังนั้น หากคนไทยต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงทำให้ประเทศไทยก้าวหน้า และพัฒนาทันเพื่อนบ้านและแซงเพื่อนบ้าน ก็ต้องช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทยกันมากๆ ช่วยกันกาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. เกินกว่า 300 คน เพื่อจะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และนำพาประเทศไทยสู่ความรุ่งเรืองเหมือนในอดีตได้.