เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ บริเวณท่าเทียบเรือเอกชนแห่งหนึ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้วัดท้องคุ้ง ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย และเทศบาลใกล้เคียง รวม 5 คัน รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นท่าเรือเอกชนที่ใช้สำหรับจอดชาร์จเรือไฟฟ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่พบเพลิงกำลังลุกไหม้เรือเฟอร์รี่ที่จอดเทียบท่าเรียงกัน 12 ลำ โดยเพลิงลุกไหม้เรือดังกล่าวอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมกำลังกันฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกโหมไหม้เรือ เพื่อไม่ไห้เพลิงลุกลามไหม้เรือที่จอดอยู่ข้างกัน แต่การควบคุมเพลิงก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากขณะเกิดเหตุ มีกระแสลมแรง เจ้าหน้าที่ต้องใช้การดับเพลิงทั้งจากทางพื้นบกและเรือดับเพลิงจากกรมเจ้าท่าและมูลนิธิร่วมกตัญญู สูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาควบคุมเพลิง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบพบเพลิงลุกไหม้เรือเฟอร์รี่ เสียหาย 3 ลำ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือเฟอร์รี่ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ โดยที่ รปภ. รายงานว่า ก่อนเกิดเหตุมีเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้ คาดว่าน่าจะเป็นแบตเตอรี่ในเรือ ซึ่งเรือทั้งหมดจะมาชาร์จแบตเตอรี่ที่นี่ ซึ่งตอนที่ตนเองเข้ามา ไฟก็ได้ลุกไหม้แล้ว บริเวณท่าเทียบเรือที่ชาร์จแบตเตอรี่เรือติดตั้งไว้ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นเพลิงลุกไหม้เรือเสียหายไป 3 ลำ
นายอัครพล ตุรษงาม อายุ 48 ปี คนดูแล เล่าว่า เพลิงเกิดจากพื้นเรือลำที่ 9 ซึ่งบริเวณดังกล่าวจอดอยู่ 5 ลำ ก่อนที่จะย้ายเรือหนีเพลิงไหม้ได้ 2 ลำ โดยในท่าเรือมีเรือทั้งหมด 12 ลำ โดยเรือที่ไหม้เป็นเรือใหม่รอส่งงาน ซึ่งเรือแต่ละลำราคาประมาณ 40 ล้านบาท
นายพชร ศศิชาชยามร ปภ.จังหวัดสมุทรปราการ เผยว่า ที่เรือจอดอยู่ที่นี่ทั้งหมด 12 ลำ ได้รับความเสียหาย 3 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายหน่วยงานเข้าควบคุมเพลิงดังกล่าว ขณะนี้เพลิงเกือบสงบลงแล้ว มีการปะทุบ้างเล็กน้อย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทางจังหวัดได้ไห้ความสำคัญ เนื่องจากมีแผนป้องกันภัยทางน้ำ ซึ่งประชุมผ่านไปแล้วและรอประกาศ ส่วนเรื่องทางมลพิษ ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งจะลงพื้นที่ตรวจวัดมลพิษต่อไป ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
นายฉัตรชัย เวชสาร ผอ.เจ้าท่าสมุทรปราการ เผยว่า เบื้องต้นจากการสอบถามพบว่า เรือที่เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าวเป็นเรือที่สร้างขึ้นใหม่ ยังไม่มีการส่งมอบ ซึ่งเพลิงไหม้เสียหาย 3 ลำ และจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปและทำแผนที่ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะประสานผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพักกับเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป สำหรับเรือเฟอร์รี่ดังกล่าว เป็นของบริษัทเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นของคนไทย โดยเรือชนิดดังกล่าวเป็นเรือนำเที่ยวแบบใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ซึ่งมีรายงานมูลค่าลำละไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท.