จากกรณี เฮียเอ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี มหาเศรษฐี เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ถูกลูกชาย-สะใภ้ พร้อมพวก กักขังกรอกยาสลบหมูนานกว่า 2 ปี จัดฉากให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ก่อนยื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกแทนแม่ โอนถ่ายทรัพย์สินกว่า 65 ล้านบาท เมียผูกคอดับคาห้องหลังถูกจับแยกห้อง เชื่อโดนจัดฉากฆาตกรรม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ก.พ. พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นบ้านพ่อตาและแม่ยาย โดยเปิดเป็นบริษัทขายวัสดุก่อสร้างและขายน้ำดื่ม ซึ่งทันทีที่มาถึงได้แสดงหมายค้น ภายในพบคนงานประมาณ 3-4 คนกำลังเฝ้าอยู่ภายใน

ขณะที่บริเวณด้านหน้ามีป้าย เขียนในกระดาษ เอ 4 ติดอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้า โดยระบุว่า ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกและนักข่าวเข้ามารั้วบ้าน จากนั้นตำรวจได้แสดงหมายค้นพร้อมเข้าไปตรวจสอบภายใน

ทีมข่าวพบกับหนึ่งในคนงานที่บ้านหลังนี้ บอกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตัวเองถูกว่าจ้างให้มาเฝ้าบ้านหลังนี้ โดยมีชายหญิงคู่หนึ่งติดต่อมาให้ค่าจ้างวันละ 2,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมาบ้านหลังนี้มาก่อน โดยให้ทำหน้าที่เฝ้าบ้านตั้งแต่เวลาประมาณ 10 โมงเช้าและกำหนดเลิกงานประมาณ 4 โมงเย็น ก่อนที่คนจ้างทั้ง 2 คนจะหายตัวไป พร้อมกับสั่งให้ทำหน้าที่ถ่ายรูปเวลาใครมาอยู่บริเวณหน้าบ้าน

ตำรวจใช้เวลาตรวจค้นภายในบ้านหลังนี้นานกว่า 1 ชั่วโมง จาการตรวจสอบพบว่า ภายในบ้านเป็นห้องโถง แบ่งเป็นหลายห้อง ซึ่งจุดที่ตรวจสอบเป็นห้องที่เฮียเอพร้อมกับภรรยา บอกว่าถูกนำตัวมาขังไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทุกอย่างคงสภาพเดิมเกือบทั้งหมดตามที่เฮียหมูระบุไว้ แต่ด้วยระยะเวลาที่ผ่านไปนานกว่า 2 ปี จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเก็บและรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งทางตำรวจได้เก็บพยานหลักฐานที่คาดว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีไปตรวจสอบ

โดยจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ลูกกรงเหล็กภายในห้องที่เฮียเอ และภรรยาถูกขังไว้ ซึ่งจุดนี้เฮียเอ บอกว่า จุดนี้เป็นจุดที่ทางลูกสะใภ้ รวมถึงพ่อตาและแม่ยาย ให้ข้าวให้อาหารที่จุดนี้ โดยตลอดระยะเวลาที่เฮียเอถูกขังไว้ เฮียเอพยายามเอาน้ำเกลือที่ได้มา ซึ่งที่มาของเกลือคือ ทางพ่อตาและแม่ยายจะให้ใช้คลุกข้าวแทนน้ำปลา มาหยอดลงที่โครงเหล็กอยู่ทุกวัน เพื่อให้เกิดการผุกร่อน เพื่อหวังให้เหล็กผุแล้วสามารถปีนออกไปได้ ซึ่งตำรวจได้เก็บโครงเหล็กนำไปตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่วันนี้ตรวจพบคนงาน 3-4 คน มาเฝ้าบ้าน ก็เชื่อว่าทางตัวเจ้าของบ้านซึ่งคือ พ่อตาและแม่ยาย เป็นคนติดต่อว่าจ้างให้มาเฝ้าบ้านหลังนี้แทน เพราะหลังตกเป็นข่าว อาจเกิดการตกใจ กลัวว่านักข่าวจะบุกเข้ามา ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี แต่เป็นการถูกว่าจ้างให้มาเฝ้าบ้านเฉยๆ ส่วนการติดตามตัวพ่อตาและแม่ยาย คาดว่าตอนนี้ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจก็อยู่ระหว่างประสานให้เดินทางมาให้ปากคำ

พ่อมหาเศรษฐีลั่นเดินหน้าเอาผิดฝั่งสะใภ้ให้ถึงที่สุด ให้อภัยลูกชายหากยอมมาร่วมมือกัน

ส่วนลูกสะใภ้ตอนนี้พบว่าเดินทางออกไปต่างประเทศ ส่วนตัวลูกชายของเฮียหมู ตำรวจเชื่อว่ายังคงอยู่ในประเทศ โดยเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียก ส่วนพยานหลักฐานหลังจากการเข้าตรวจสอบในวันนี้ ตำรวจขอนำกลับไปรวบรวมเพื่อประกอบสำนวนอีกครั้ง รวมถึงหาตัวพยานคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากนี้ก็เตรียมตรวจพื้นที่จุดอื่นๆ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีเพิ่มเติม.