จากเหตุการณ์ลูกจ้างแรงงานชาวเมียนมา 3 คน ก่อเหตุฆาตกรรมสุดโหดเหี้ยม ฆ่ายกครัว นายเชาว์ มั่นพัฒนาการ อายุ 46 ปี พร้อมครอบครัวรวม 5 ศพ แม่แต่เด็กอายุ 3 เดือนก็ไม่เว้น เหตุเกิดกลางไร่ขิงบนดอยบ้านปางสังกะสี หมู่ 11 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.วังเจ้า หลังก่อเหตุใช้เส้นทางหลบหนี บ้านปางสังกะสี ไปยังชายแดนอำเภอพบพระ ข้ามไปยังจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตับกุม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวน พบว่า นายเชาว์ ผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีฐานะดี สามารถมีเงินผ่อนรถยนต์โฟวีล ราคาเกือบล้าน และซื้อรถอีแต๋น 4×4 ราคากว่า 100,000 บาท เครื่องสูบน้ำคูโบต้า ราคากว่า 50,000 บาท มีอุปกรณ์การทำเกษตรพร้อมเพียง มีอาชีพการทำไร่ขิง ส่งขายตลาดไท มีรายได้ดี นอกจากนี้ ยังมีรถกระบะโตโยต้า สีดำ ทะเบียน บล 3074 กำแพงเพชร เป็นของ นายเจษฎา มั่นพัฒนาการ อายุ 35 ปี น้องชายของนายเชาว์ เพิ่งซื้อในระบบผ่อน ส่งเดือนละ 13,000 บาท กำหนดส่ง 7 ปี แต่ส่งได้ 2 ปี นายเจษฎาส่งไม่ไหว จึงให้นายเชาว์ส่งต่อ แต่มาถูกฆาตกรรมเสียชีวิตไปก่อน ส่งผลให้ขาดคนผ่อนส่งรถ ทำให้ต้องให้บริษัทไฟแนนท์มายึดไป เพราะรถคันดังกล่าวส่งไปได้ 2 ปีแล้วเหลืออีก 5 ปี โดยตำรวจตรวจผบถูกจอดทิ้งไว้กลางป่า ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่นของนายเชาว์ และภรรยาผู้ตายทางญาติก็จะแบ่งกันดูแล                                                                                                                     

ส่วนการทำพิธีทางศพของนายเชาว์ และภรรยา ได้ตัังประกอบพิธีที่บ้านผาผึ้ง ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เจี๊ยะ แสงสว่าง อายุ 34 ปี ภรรยาผู้ตาย โดยพิธีจะมีขึ้นตามพิธีกรรมของชาวม้ง จะทำพิธีครั้งละ 1ศพ ไม่ทำพร้อมกันทีเดียว 5 ศพ จากนั้นจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปฝังที่ป่าช้า การจากไปของนายเชาว์และภรรยา จากสาเหตุมาจากการถูกลูกจ้างชาวเมียนมา 5 ยกครัวรวม 5 ศพ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวม้งเป็นอย่างมาก ต้องทบทวนกันใหม่ จากการจ้างแรงงานชาวเมียนมามาทำไร่ในอนาคต ขณะที่ที่การติดตามจับกุมคนร้ายตำรวจยังติดตามล่าตัวไม่ลดละ พยายามแกะรอยไปถึงชายแดน เพื่อล่าตัวมารับโทษให้สาสม.