กลายเป็นกระแสที่มีการพูดถึงอย่างมากกับ แชตจีพีที (ChatGPT)  ที่เป็นโปแกรม เอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ประเภทแชตบอท (Chatbot)  ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท OpenAI จากซานฟรานซิสโก ซึ่งได้เปิดตัว “แชตจีพีที” ไปเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

และได้มีจำนวนผู้ใช้ที่แอคทีฟรายเดือน ทะลุ 100 ล้านบัญชีไปแล้ว เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น นับจากวันที่เปิดตัว ทำให้ “แชตจีพีที” กลายเป็นโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่น ที่มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตเร็วที่สุดในโลก เท่าที่เคยมีข้อมูลบันทึกไว้!?!

ซึ่งก็ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับ แวดวงเทคโนโลยีอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับการพัฒนา เอไอ ไปอีกขั้น!?! เพราะความพิเศษ และน่าตื่นเต้นของ “แชตจีพีที” คือ สามารถสื่อสารข้อความกับผู้ใช้งานได้ใกล้เคียง กับการสื่อสารกับมนุษย์จริงๆ ถามอะไรตอบได้ และคำตอบที่ได้ ก็ถูกต้องมีความแม่นย่ำ แม้ยังไม่ถึง 100% แต่ก็อยู่ระดับสูงเลยทีเดียว!!

ภาพ pixabay.com

“แชตจีพีที” ไม่ใช่แค่คุยโต้ตอบเท่านั้น!?! ยังสามารถใช้งานที่ยากขึ้นกว่านั้น อาทิ การช่วยเขียนโปรแกรม, เขียนบทความ, เขียนรายงาน ฯลฯ เรียกได้ว่ามีความฉลาดคล้ายมนุษย์มากขึ้นไปทุกที!?!

ทั้งนี้ “แชตจีพีที” เป็นรูปแบบหนึ่งของ GPT-3.5 Language Generation Software ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบทสนทนากับผู้ใช้งาน โดยมีอัลกอริทึมการเรียนรู้ เพื่อวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ภาษาเขียนหรือภาษาพูด ที่ถูกป้อนข้อมูลเข้ามา แล้วจึงสร้างการตอบกลับตามบริบทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งระบบได้ถูกฝึกให้เรียนรู้ด้วยตนเอง หรือ Machine Learning จากข้อมูลในรูปแบบข้อความจำนวนมหาศาล จึงสามารถจดจำ และเขียนตำตอบได้ใกล้เคียงกับการโต้ตอบแบบมนุษย์มากที่สุด!!

การมาของเทคโนโลยีนี้จะเข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจ และผู้คนอย่างไรบ้าง?? หาคำตอบกับ ผู้ที่คุกคลีอยู่ในวงการเทคโนโลยีอย่าง “สวภพ ท้วมแสง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) แพลตฟอร์มบริหารจัดการออร์เดอร์และสต๊อกครบวงจร บอกว่า “แชตจีพีที” เป็นการใช้ เอไอ เข้ามาช่วยทำงานต่างๆ ได้เร็วขึ้น แต่ก็มีโอกาสที่จะมาแย่งานคน ซึ่งอาจไม่ได้แย่งทั้ง 100% หรือ มาทำแทนทุกอย่าง แต่บางอย่างก็สามารถทำแทนคนได้ เช่นในเรื่อง การเขียนโปรแกรม กับ มาร์เกตติ้ง ที่เมื่อก่อนใช้ทีมโปรแกรมเมอร์พัฒนา 20 คน ต่อไปอาจไม่จำเป็นต้องใช้ถึง 20 แล้ว ส่วนงานด้านมาร์เกตติ้ง ก็จะใช้ แชตจีพีที ในการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย

สวภพ ท้วมแสง

ข้อดี คือ จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถทำธุรกิจได้แม่นยำมากขึ้นจาก ข้อมูลต่างๆ ที่ถูกกรองมาให้ในระดับหนึ่ง แล้วให้คนใช้งานตัดสินใจ “แชตจีพีที” จึงมีความฉลาดมากจากฐานข้อมูลจำนวนมาก !!

เรียกว่าจะเป็นอีกยุคหนึ่งต่อจาก “กูเกิล เสิร์ช”!?!

“สวภพ ท้วมแสง” อธิบายว่า ที่ผ่านมาเมื่อเราค้นหาข้อมูลจาก กูเกิล การตัดสินใจเลือกก็ยังเป็นคน จากข้อมูลแสดงขึ้นมา แต่ “แชตจีพีที” จะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจ จากการเลือกตอบที่มีความแม่นยำ และเชื่อว่า ในอีก 1-2 ปี ต่อจากนี้ คำตอบที่ได้จะมีความแม่นยำมากขึ้นอีกจากฐานข้อมูลที่มากขึ้นในอนาคต!??!

“ในอดีตการหาข้อมูลทำได้ยาก แต่เมื่อมีกูเกิล ทำให้สามารถหาข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย และกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานของทุกธุรกิจ และคนใช้คอมพิวเตอร์ การมาของ แชตจีพีที ก็จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี หรือถือได้ว่าเป็น “ดาวดวงใหม่” ของวงการเทคโนโลยีก็ได้เช่นกัน ในอีก 2-3 ปีนี้ จะแพร่หลายอย่างมากในอนาคต เชื่อว่าจะมีการนำ แชตจีพีที มาใช้งาน เพราะจะช่วยให้ธุรกิจ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และไม่จำเป็นต้องเพิ่มแรงงาน หรือใช้คน จำนวนมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ดาต้า หรือ ข้อมูล”

ภาพ pixabay.com

ผู้บริหารของ “ซอร์ทเอาท์” บอกต่อว่า ธุรกิจที่จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ คือ ธุรกิจที่ต้องใช้ข้อมูล เช่น ที่ปรึกษา มาร์เกตติ้ง วิจัยตลาด รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับเทค เพราะสามารถใช้เขียนโปแกรมแทนคนได้บ้างแล้ว แม้อาจจะยังแทนคนได้ไม่หมด แต่ก็ถือว่าช่วยได้เยอะมาก  รวมถึงในส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ก็สามารถนำ แชตจีพีที มาช่วยวิเคราะห์ในด้านดาต้า เช่น จะขายที่ไหน เอาสินค้าอะไรมาขาย สินค้าอะไรที่กำลังเป็นเทรนด์ หรือ นิยม ฯลฯ ซึ่งองค์กรธุรกิจจะมีการเชื่อมต่อแชตจีพีที นำมาใช้งานจำนวนมาก และมีบริษัทเทคหลายแห่งนำโซลูชั่นของ แชตจีพีที เชื่อมต่อใช้กับโซลูชั่นของตนเอง

อย่างไรก็ตาม ในข้อเป็นห่วงในเรื่องการใช้งานในทางที่ไม่ดี  เช่น เกี่ยวกับภาคการศึกษานั้น เช่น นำไปใช้เขียนรายงาน ทำการบ้านแทนนั้น ทาง “สวภพ” มองว่าก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามและน่าเป็นห่วง ที่อาจทำให้เด็กนักเรียนไม่มีการคิด วิเคราะห์ด้วยตนเอง ซึ่งโรงเรียนอาจต้องมีวิธีการตรวจสอบที่ดี

“ในมุมมองของคนที่อยู่ในสายเทค คิดว่าเทคโนโลยีนี้ จะมีผลดีมากกว่าเสีย จุดที่ไม่ดี เชื่อว่า คนใช้จะมีการปรับตัวในการรับและนำเทคโนโลยีไปใช้ และในอนาคตอาจจะมีสายงานใหม่ๆ เกิดขึ้นเกี่ยวกับ แชตจีพีที ได้ เช่น ผู้เชี่ยวชาญ แชตจีพีที ส่วนสายงานที่อาจโดนดิสรัปชั่น ก็ต้องมีการปรับตัว”

ภาพ pixabay.com

สุดท้าย “สวภพ” แนะนำว่า ในฝั่งยูสเซอร์หรือผู้ใช้งานควรจะต้องลองเรียนรู้การใช้งาน เพื่อที่จะรู้ถึงข้อดีข้อเสีย ในส่วนสายเทค เช่น โปแกรมเมอร์ ก็ต้องมองว่า จะสามารถนำ แชตจีพีที มาต่อยอดกับสิ่งเรากำลังพัฒนาได้อย่างไรบ้าง!?!

ใครที่สนใจลองใช้งาน ChatGPT free version ก็เข้าไปได้ที่ https://openai.com/blog/chatgpt/ แล้วกดที่ TRY CHATGPT ทำการ Login/Sign up จากนั้นเริ่มใช้งานได้เลย!?!

 จิราวัฒน์ จารุพันธ์