กรณีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีพิเศษที่ 288/2565 ในข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์คดียาเสพติด เนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานการรับโอนเงินจำนวน 53 ล้านบาท จากนายอรรถกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “นาย อ.” ซึ่งมีความพัวพันเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

DSI ลุยเช็กเส้นทางการเงิน ‘นอท กองสลากพลัส’ ตั้งแต่เริ่มทำหวยออนไลน์

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรม ว่า ภาพรวมในคดีพิเศษที่ 288/2565 ทางคณะพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นเตรียมแจ้งข้อหาและขอศาลออกหมายจับในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน เพิ่มเติมกับบุคคลอื่นอีก 4 ราย เนื่องจากพบว่าเส้นทางการเงินมีการไปเชื่อมโยงถึงบุคคลเหล่านี้ โดยทั้ง 4 รายนี้ รับหน้าที่เป็นบัญชีม้าและเป็นลูกน้องของขบวนการฟอกเงินที่ดีเอสไอจับกุมไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งการเตรียมขอศาลออกหมายจับนั้น สาเหตุมาจากก่อนหน้านี้ ทั้ง 4 ราย ยังอยู่ในฐานะพยาน แต่เมื่อดีเอสไอมีการออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง เพื่อให้เข้าให้การ กลับไม่มีการให้ความร่วมมือใดๆ จึงเป็นเหตุที่มาให้ต้องขอศาลออกหมายจับตามขั้นตอน

ส่วนจำนวนเงิน 53 ล้านบาทที่นายพันธ์ธวัช รับโอนมาจากนายอรรถกานต์ โดยอ้างว่าเป็นเงินที่มอบอำนาจให้นายอรรถกานต์ นำสลากฯ ถูกรางวัลหลายฉบับไปขึ้นเงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อทดลองระบบ จนเป็นเหตุให้ดีเอสไอแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินนั้น แหล่งข่าวเผยว่า ด้วยพฤติการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมองว่าเป็นพฤติการณ์ของการสร้างเส้นทางการเงิน เพื่อสร้างหลักฐานการได้มาของเงินจำนวน 53 ล้านบาท ดีเอสไอจึงต้องแจ้งข้อหากับนายอรรถกานต์และนายพันธ์ธวัช (ผู้ยินยอมให้นายอรรถกานต์นำสลากฯ ถูกรางวัลไปขึ้นเงิน) ดังนั้น ในกรณีนี้ เมื่อนายพันธ์ธวัชรับเงิน 53 ล้านบาทมา จึงทำให้เข้าใจว่าไม่ใช่เงินจากพนันออนไลน์ แต่เป็นเงินจากการไปขึ้นรางวัล

อย่างไรก็ตาม การนำลอตเตอรี่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พฤติการณ์เช่นนี้ เจ้าหน้าที่เล็งเห็นว่าเป็นการอำพรางการได้มาของทรัพย์สิน เนื่องจากในความจริง บรรดาคนกลุ่มนี้มีเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาทอยู่แล้ว แค่เพียงต้องการสร้างหลักฐานการได้มาของเงินแต่ละก้อน แต่ท้ายสุดก็หลบหลีกแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เพราะจากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับขบวนการฟอกเงิน ปรากฏค่อนข้างชัดเจนว่า มีพฤติการณ์ปั้นเส้นเงิน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอยังคงขยายผลสืบเนื่องต่อไปว่า ยังมีบุคคลใดหรือนิติบุคคลใดเพิ่มเติม ที่มีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวกับนายพันธ์ธวัชอีกหรือไม่

“การสรุปสำนวนคดีพิเศษที่ 288/2565 เพื่อส่งอัยการนั้น ตนทราบว่าทางศูนย์คดียาเสพติดกำลังเร่งสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ หรืออาจจะช่วงต้นสัปดาห์ของเดือนมีนาคม ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนจะต้องทำสำนวนให้ครบถ้วนทุกประเด็น และรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด” แหล่งข่าว ระบุ

เมื่อถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีพิเศษที่ 6/2566 ที่เกี่ยวข้องกับนายพันธ์ธวัช หรือ เส้นทางเงิน 39 รายการ แหล่งข่าวเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันแก่นายพันธ์ธวัช และบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ไปแล้วนั้น จากนี้ก็จะมีการเรียกบุคคลเพิ่มเติม เพื่อมาสอบปากคำในฐานะพยาน หรือให้การชี้แจง เนื่องจากดีเอสไอได้มีการขยายผลและพบว่ายังมีบุคคลอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงในลักษณะพฤติการณ์คล้ายกัน เช่น ลักษณะธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ หรือ รายชื่อบุคคลที่อาจจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจสีเทา เป็นต้น

สำหรับประเด็นเรื่อง 4,000 คดี ที่นายพันธ์ธวัชถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายท้องที่ทั่วประเทศไทยแจ้งข้อหาจำหน่ายสลากฯ เกินราคานั้น แหล่งข่าวชี้แจงว่า ตนทราบว่าคดีเหล่านี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางดีเอสไอ เนื่องมาจากเป็นคดีเปรียบเทียบปรับอย่างเดียว (อายุความ 1 ปี) และมีบางคดีที่อาจจะขาดอายุความในเดือนมีนาคมนี้ เพราะลอตเตอรี่ที่นายพันธ์ธวัชถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความ คือ ลอตเตอรี่งวดเดือนมีนาคม ปี 2565 จึงคาดว่าจะมีการส่งสำนวนคดีไปรวมกันไว้ที่เดียว และเป็นในส่วนความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าไม่ต้องโอนคดีมายังดีเอสไอแต่อย่างใด.