นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์การ จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟน แบรนด์โนเกีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับแผนการตลาดและช่องทางการขายเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย และเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในช่วงล็อกดาวน์ จึงได้เพิ่มการทำการตลาดและขยายช่องทางขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นไปยัง กลุ่มจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในช่องทางออนไลน์ ผ่านโซเชียลมีเดียของตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่สีแดง เพื่อชดเชยยอดขายจากช่องทางหน้าร้าน ในห้างสรรพสินค้าที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ รวมทั้งยังคงทำการตลาดผ่านช่องทางอีมาร์เกตเพลสอย่าง ช้อปปี้ ลาซาด้า และ เจดี เซ็นทรัลอย่างต่อเนื่อง

“แม้ที่ผ่านมายอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตประมาณ 60% และยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ช่องทางขายผ่าน ตัวแทนจำหน่ายยังคงเป็นช่องทางขายที่สำคัญ เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ยังต้องการทดลองและสัมผัส การใช้งานจริงของเครื่อง โดยเฉพาะในตลาดปริมณฑล และต่างจังหวัด  จึงได้ปรับแผนการขยายตัวแทนจำหน่ายไปยังพื้นที่เมืองรอง เนื่องจากยังมีกำลังซื้อและสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ในขณะที่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่สีแดงเข้มและสีแดงได้ปรับการขายนอกห้างสรรพสินค้า เพื่อโอกาสทางการขายและให้บริการลูกค้า ในระหว่างที่ไม่สามารถให้บริการที่ สาขาในห้างได้”

นายภราดร กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยยังอยู่ในภาวะที่ทรงตัวและยังไม่เติบโตไปตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่โนเกียยังคงให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยเป็นเป้าหมายการขยายตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้คนไทยมุ่งสู่สังคมดิจิทัลอย่างรวดเร็ว สมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ผู้บริโภคมองหาสมาร์ทโฟนคุณภาพดีราคาเอื้อมถึง ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนโนเกีย อย่างไรก็ตาม โดยเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจะกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่องได้แน่นอน.