เมื่อปลายเดือนมกราคม 2023 วิดีโอไวรัลของวัยรุ่นคนหนึ่งที่เลียสิ่งของต่าง ๆ ในร้านซูชิสายพาน Sushiro ในจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น เช่น ขวดซีอิ๊ว แก้วน้ำแบบบริการตนเอง ฯลฯ แล้วนำกลับไปเก็บที่เดิม ซึ่งมีโอกาสที่ลูกค้ารายต่อไปจะนำมาใช้งานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจอย่างมาก และทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบมากมาย ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในร้านซูชิสายพาน มีตั้งแต่ร้านอูด้ง ดมบูริ ร้านต่าง ๆ ที่มีขวดเครื่องปรุงวางไว้ทั้งหมด

แต่สำหรับพฤติกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นในร้านซูชิสายพานนั้น มันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น ทว่า มันเคยเกิดขึ้นก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 แม้ร้านจะพยายามแก้ไขด้วยการวางกล้องเอาไว้บนสายพานเพื่อสอดส่องดูลูกค้า แต่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ไม่เคยหมดไป

พฤติกรรมอันน่ารังเกียจนี้ ถูกเรียกกันในวงกว้างว่า “daeki tero” (การก่อการร้ายด้วยน้ำลาย) โดยผู้ก่อเหตุที่ถูกจับตัวได้ต้องมาพร้อมพ่อแม่เพื่อขอโทษร้านซูชิสายพาน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นของร้าน Sushiro ที่ลดลง 5% ทันทีที่วิดีโอเผยแพร่ คำขอโทษ ดูเหมือนไม่น่าจะเพียงพอ

ไม่เพียงแค่นั้น Sushiro และเครือข่ายซูชิสายพานร้านอื่น ๆ ประสบปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถืออย่างหนัก หลังมีการโพสต์วิดีโอ daeki tero บนโซเชียลมีเดีย คุณจะพบความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับเอฟเฟกต์ของเรื่องนี้ เช่น

“ฉันจะไม่กินซูชิสายพานอีกแล้ว”

ความคิดที่จะให้อาหารของคุณเดินทางผ่านหน้าของคนแปลกหน้ามากมาย ก่อนที่คุณจะเลือกหยิบขึ้นมากินนั้น มันกลายเป็นปัญหามากขึ้นเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 และการก่อการร้ายด้วยน้ำลายก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก

Kura Sushi เครือข่ายซูชิสายพานอีกหนึ่งรายประกาศว่า พวกเขากำลังติดตั้งไมโครชิพบนกล่องที่ใส่จานซูชิ เพื่อตรวจสอบว่าซูชิแต่ละจานถูกบุกรุกโดยพวกก่อการร้ายด้วยน้ำลายหรือไม่

ด้าน Hama Sushi เครือข่ายซูชิสายพานอีกแห่งหนึ่ง ได้ยกเลิกซูชิสายพานสาธารณะไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เปลี่ยนมาให้บริการแบบสายพานด่วนแทน โดยลูกค้าสั่งอาหารผ่านหน้าจอสัมผัส และจานจะถูกส่งไปที่โต๊ะโดยตรง ไม่ได้หมุนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เลือกหยิบ

นอกเหนือจากการป้องกันการก่อการร้ายด้วยน้ำลายแล้ว การสั่งซูชิโดยตรงยังมีประโยชน์เพิ่มเติมตรงที่ทำให้ซูชิมีความสดใหม่กว่า และไม่ต้องรอจานซูชิที่คุณต้องการซึ่งค่อย ๆ เดินทางมาตามสายพานอย่างเชื่องช้า นอกจากนี้ยังช่วยให้ร้านอาหารควบคุมสต๊อกสินค้าได้งายขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม มีความคิดเห็นมากมายทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการที่ร้านเลิกให้บริการซูชิสายพานที่หมุนไปเรื่อย ๆ ว่า…

“ถ้าซูชิของร้านซูชิสายพาน ไม่หมุนไปตามสายพาน มันก็เป็นแค่ร้านซูชิธรรมดาสิ”
“พวกเขาอาจต้องเปลี่ยนไปใช้ซอสและถ้วยกระดาษแบบแยกชิ้นเป็นซอง ๆ แม้จะไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมก็ตาม”
“แค่เก็บอาหารไว้ข้างหลังก็ไม่เป็นไร เราไม่ต้องการให้มันเคลื่อนไหว”
“ฉันสบายดีกับการซื้อกลับบ้าน ขอบคุณ”
“ฉันคิดว่าแม้จะเป็นบริการแบบสายพานด่วน แต่ก็ยังมีคนพยายามถ่มน้ำลายรดพวกมัน ขณะที่เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว”
“ไม่ว่าการปรับปรุงระบบอะไรก็ตาม Sushiro จำเป็นต้องได้ค่าปรับจากพวกก่อการร้ายด้วยน้ำลาย”

มันคงจะน่าเศร้ามาก หากการก่อการร้ายด้วยน้ำลาย จะส่งผลกระทบอันยิ่งใหญ่จนเกิดการอวสานของซูชิสายพานแบบที่หมุนไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้เราพลาดประสบการณ์การเลือกรับประทานซูชิหน้าที่ตัวเองชอบผ่านสายพานที่หมุนไปเรื่อย ๆ

ที่มา : soranews24.com